The Last of Us ถือว่าเป็นอีกหนึ่งซีรีส์จากวิดีโอเกมที่ได้รับคำชมอย่างมากมาย แม้จะเพิ่งออกอากาศได้เพียงแค่ตอนเดียวเท่านั้น ด้วยความที่องค์ประกอบต่าง ๆ ของซีรีส์นั้น ผู้สร้างได้ยึดตามแบบต้นฉบับแบบแทบแยกไม่ออกชนิดที่ว่าเหมือนกับวิดีโอเกมทุกประการเลยก็ว่าได้ จนได้ชื่อว่าเป็นผลงานดัดแปลงจากวิดีโอเกมที่ดีที่สุดเรื่องหนึ่ง แต่จะดีได้จนถึงที่สุดหรือไม่ อาจจะต้องฝากความหวังไว้ในตอนต่อ ๆ ไป
แต่เรื่องราวใน The Last of Us นั้นจะไม่สามารถเกิดขึ้นได้เลย ถ้าไม่มี “อะไรบางอย่าง” ที่ทำให้อารยธรรมของมนุษย์ถึงคราวล่มสลาย โดยในที่นี้เรากำลังพูดถึง “Cordyceps Brain Infection” เชื้อราที่มีเปลี่ยนคนธรรมดาให้กลายเป็นอสุรกาย ที่พร้อมจะไล่ล่าทุกอย่างที่อยู่ในความสนใจของมัน
ด้วยความใส่ใจในรายละเอียดของ Naughty Dog ผู้พัฒนาเกม นั่นทำให้เชื้อราตัวนี้กลายเป็นปรสิตสุดสยองที่มีรายละเอียดสมจริง โดยใช้การอ้างอิงข้อมูลจากเชื้อราที่มีอยู่จริง แต่ไม่ใช่แค่นั้น เชื้อรานี้ยังมีความสามารถในการเปลี่ยนสิ่งมีชีวิตให้กลายเป็นซอมบี้ได้จริงๆ เช่นกัน The E world จะขอพาไปทำความรู้จักกับเชื้อราสุดสยอง ที่เปลี่ยนมนุษย์ให้กลายเป็นซอมบี้ และเชื้อราตัวจริงที่เป็นต้นแบบของมันกัน
ทำความรู้จักกับ Cordyceps Brain Infection
“Cordyceps Brain Infection” (CBI) หรือ “การติดเชื้อราในสมอง” โรคประหลาดที่เกิดการระบาดในมนุษย์ และเป็นต้นเหตุที่ทำให้ประชากรมนุษย์ราว 60% ต้องตาย ไม่ก็กลายเป็นผู้ติดเชื้อในเวลาไม่กี่เดือน ส่วนมนุษย์ที่เหลือรอด ก็ต้องอาศัยอยู่ในนิคมเล็ก ๆ ที่ก่อตั้งขึ้น ท่ามกลางโลกที่ล่มสลาย และรายล้อมไปด้วยผู้ติดเชื้อ ที่พร้อมจะไล่ล่ามนุษย์ และแพร่พันธุ์ต่อไป
ตามเนื้อเรื่องใน The Last of Us เชื้อราที่ทำให้เกิดโรค CBI นั้น เป็นการกลายพันธุ์มาจากสายเชื้อราปรสิตที่มักพบในแมลงจำพวกมด โดยมันจะเข้าควบคุมร่างที่ติดเชื้อเพื่อใช้เป็นพาหะในการแพร่พันธุ์ต่อไป
เชื้อรากลายพันธุ์ชนิดนี้มีต้นกำเนิดจากอเมริกาใต้ ถูกค้นพบครั้งแรกในสหรัฐเมื่อปี 2013 ซึ่งแพร่กระจายตามผลผลิตทางการเกษตร และแพร่เชื้อมาสู่มนุษย์ที่กินผลผลิตเหล่านั้น โดยทางรัฐบาลรับรู้เรื่องนี้มาก่อนแล้ว แต่พยายามปกปิดไว้ และพยายามเรียกคืนผลผลิตคืนจากร้านค้า แต่ก็สายเกินไป จนเชื้อได้แสดงอาการออกมา และระบาดในที่สุด
ส่วนเชื้อนั้นจะเข้าสู่ร่างกายของเหยื่อผ่านสปอร์ที่สูดดมเข้าไป หรือ ผ่านสารคัดหลั่งจากผู้ติดเชื้อรายอื่น
ผู้ที่ติดเชื้อ CBI ถึงแม้จะถูกเรียกว่า “ซอมบี้” เพราะถึงแม้จะยังมีชีวิตอยู่ แต่ก็ไม่สามารถควบคุมร่างกายได้ เพราะสมองของพวกเขาถูกเชื้อราพวกนี้ควบคุมไปแล้วโดยสมบูรณ์ โดยการติดเชื้อจะแบ่งเป็น 4 ระยะ
- ระยะที่ 1 “Runner” : เกิดขึ้นภายใน 1-2 วันหลังจากรับเชื้อ ผู้ป่วยจะสูญเสียการควบคุมร่างกาย ผอมซีดเซียว ดวงตาบวมแดงและเรืองแสงในความมืด ร่างกายจะกระตุกเป็นระยะ ๆ โดยพวกเขาจะวิ่งเข้าไปจู่โจมมนุษย์คนอื่นๆ จนเป็นที่มาของชื่อ Runner
- ระยะที่ 2 “Stalker” : เกิดขึ้นหลังติดเชื้อ 1 สัปดาห์ หรือหลายเดือน ระยะนี้เชื้อราจะเริ่มเติบโตและงอกออกมาตามร่างกาย โดยเฉพาะทางหูและดวงตา พวกมันมักชอบซุ่มรอเหยื่อตามมุมมืด เพื่อที่จะรุมโจมตีเป็นฝูง แต่บางครั้งมันก็จะเปลี่ยนตัวเองเป็นรังเชื้อราขนาดใหญ่ตามกำแพงหรือสิ่งปลูกสร้าง และจะพุ่งออกมาจากรังของมันเมื่อมีเหยื่อเดินผ่าน
- ระยะที่ 3 “Clicker” : เมื่อติดเชื้อมานานกว่า 1 ปี ใบหน้าและดวงตาของผู้ติดเชื้อจะถูกแทนที่ด้วยช่อเชื้อราขนาดใหญ่ มาพร้อมกับความสามารถในการรับรู้ตำแหน่งจากเสียงสะท้อน อีกทั้งยังมีพละกำลังมากกว่าปกติ ถ้าใครทะลึ่งสำเสียงดังตอนพวกมันอยู่ใกล้ ๆ พวกมันจะวิ่งเข้าใส่แน่นอน
- ระยะที่ 4 “Bloater/Chambler” : เป็นผู้ติดเชื้อระยะสุดท้าย ใช้ระยะเวลาหลายปีในการพัฒนาสู่ระยะนี้ โดยดอกเชื้อราจะเติบโตขึ้นมาห่อหุ้มร่างกายเหมือนเกราะ ผู้ติดเชื้อจะมีพละกำลังมหาศาลทดแทนความคล่องตัวที่เสียไป สามารถขว้างกระเปาะสปอร์ใส่เหยื่อจากระยะไกลได้ แต่ในกรณีที่ผู้ติดเชื้ออาศัยอยู่ในที่เปียกชื้น การกลายร่างระยะนี้จะเรียกว่า Chambler ที่ทั่วร่างจะเต็มไปด้วยกระเปาะสปอร์ โจมตีเหยื่อด้วยการพ่นควันพิษ และเมื่อมันตาย มันก็จะระเบิดร่างกายพร้อมปล่อยควันพิษออกมารอบ ๆ
นอกจากการติดเชื้อทั้ง 4 ระยะแล้ว มันก็ยังมีผู้ติดเชื้อระดับ “พิเศษ” แบบใส่ไข่หมดแผง ซึ่งมันถูกเรียกว่า “Rat King” เกิดจากการรวมตัวของผู้ที่ติดเชื้อจำนวนมาก ที่รับเชื้อมามากกว่า 20 ปี โดยมีเชื้อราเป็นสื่อกลางจนกลายเป็นร่างเดียวกัน และเมื่อได้รับความเสียหายจำนวนหนึ่ง ก็จะมีผู้ติดเชื้อระยะ Clicker แยกตัวออกมาจากร่างหลัก ซึ่ง Clicker ตัวนี้จะมีพร้อมกับพฤติกรรมของ Stalker และสามารถปาสปอร์ได้แบบ Bloater
ต้นแบบของเชื้อรามรณะ
สำหรับเชื้อราที่ผู้สร้าง The Last Of Us ใช้มาเป็นต้นแบบของ CBI นั้น เป็นเชื้อราปรสิตที่มีอยู่จริง ๆ โดยสายพันธุ์ดังกล่าวมีชื่อว่า “โอฟิโอคอร์ไดเซปส์ ยูนิลาเทราลิส” (Ophiocordyceps Unilateralis) ที่มักพบในแมลงจำพวกมด
ทางทีมผู้พัฒนา ได้ไอเดียนี้มาจากสารคดีชุด “Planet Earth” ของ BBC ในตอน "Jungles" ซึ่งให้เสียงบรรยายโดย “เซอร์ เดวิด แอตเทนบะระ” (Sir David Attenborough) ที่นำเสนอเรื่องราวของมดที่ถูกเชื้อรา “โอฟิโอคอร์ไดเซปส์ ยูนิลาเทราลิส” และแมลงชนิดต่าง ๆ ที่ถูกเชื้อราในลักษณะคล้าย ๆ กันยึดร่างกาย
เชื้อรา “โอฟิโอคอร์ไดเซปส์ ยูนิลาเทราลิส” นั้น เมื่อเข้าสู่ร่างกายของเหยื่อ มันจะกระจายตัวไปทั่วร่าง “ดร. ชาริสสซ่า เดอ เบกเกอร์” (Charissa de Bekker) อธิบายการเข้าควบคุมสมองของมดว่า เชื้อราจะไม่กัดกินเนื้อเยื่อระบบประสาท แต่จะหลั่งสารเคมีไปยังสมอง และควบคุมร่างกายของมดที่เป็นพาหะ เพื่อทำการกระจายสปอร์ของมันออกไป
โดยมดที่เป็นพาหะของเชื้อรา จะแสดงอาการที่คล้ายคลึงกับผู้ติดเชื้อใน The Last of Us อยู่หลายอย่างเลยทีเดียว โดยอาการที่มีดังกล่าวจะมีตามระยะการติดเชื้อของศัตรูในเกมทั้งหมดดังนี้
ระยะ Runner
- ชักกระตุกจากสารประกอบที่คล้ายกับ Aflatrem
- ตื่นตัวเป็นพิเศษ เพราะสารกระตุ้นที่เชื้อราสร้างขึ้น
- สูญเสียความสามารถในการสื่อสาร
ระยะ Stalker
- เชื้อราเริ่มเติบโตขึ้นบนร่างกาย เพื่อแพร่เชื้อสู่พาหะตัวใหม่
- เดินเร่ร่อนอย่างไร้จุดหมาย นอกจากมดแล้ว ยังสามารถพบได้ในหมาป่าที่ติดเชื้อ Toxoplasma Gondii อีกด้วย
ระยะ Clicker
- เห็ดราเติบโตอย่างเต็มที่ เหมือน “เห็ดไก่ป่า” ที่ถูกนำมาปรุงเป็นอาหาร
- การมองเห็นบกพร่อง ในกรณีของมดและแมลง มันจะถูกบังคับให้อยู่ในสภาวะที่เอื้ออำนวยต่อการเติบโตหรือแพร่สปอร์ของมันได้
ระยะ Bloater/Chambler
- เชื้อราจะจำกัดการเคลื่อนไหวของพาหะ เพื่อที่จะเติบโตบนร่างของเหยื่อที่มันอาศัยอยู่ ให้เข้าสู่ระยะการแพร่พันธุ์
แม้อาการของสิ่งมีชีวิตที่รับปรสิตพวกนี้เข้าไปจะดูน่ากลัวและจะต้องพบกับจุดจบอันน่าสยดสยอง แต่ถือเป็นโชคดีที่ว่าเชื้อราโดยส่วนใหญ่มันไม่สามารถเติบโตในร่างกายมนุษย์ได้ เพราะอุณหภูมิในร่างกายคนเรานั้นสูงเกินไป แต่นั่นก็ไม่แน่เสมอไป เพราะด้วยภาวะโลกร้อนที่เรากำลังเผชิญอยู่ในปัจจุบัน ทำให้เชื้อราเหล่านี้ต้องปรับตัวเพื่อรับมือกับอุณหภูมิที่สูงขึ้น และถ้ามาถึงจุดนั้น เราก็อาจจะพบเชื้อราที่ทนต่ออุณหภูมิในร่างกายมนุษย์ก็เป็นได้
ถึงอย่างไรก็ตาม แม้จะมีการระบาดของเชื้อราแบบเดียวกับในเกมหรือซีรีส์ The Last of Us ขึ้นมาจริง ๆ มันก็ยังไม่สามารถกวาดล้างมนุษย์ได้ทั้งหมด ด้วยเหตุผลหลาย ๆ อย่างที่ซับซ้อน แต่ถ้าเอาแบบง่ายและหยาบ นั่นเป็นเพราะถ้ามีการติดเชื้อจริง ผู้ติดเชื้อคงโดนมนุษย์ด้วยกันจัดการก่อนที่มันจะแพร่เชื้อไปมากกว่านี้ ไม่ก็มีการศึกษาตัวอย่างเชื้อเพื่อหาทางรับมือในระยะยาวต่อไป เหมือนกับที่มนุษย์เคยรอดพ้นจากโรคระบาดครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์มาแล้วหลายต่อหลายครั้ง
เนื้อหาน่าสนใจที่เกี่ยวข้อง :
มองตอนจบด้วยหลักปรัชญา : การกระทำบนทางเลือกคู่ขนานของตัวละครใน The Last of Us
Elden Ring กวาด 324 รางวัล แซงหน้าแชมป์ตลอดกาล The Last of Us 2 ไปแล้ว
แหล่งที่มา
https://thelastofus.fandom.com/wiki/Cordyceps_brain_infection#Real_world_inspiration
https://mgronline.com/science/detail/9570000043882
https://youtu.be/GnEIwL_SgL0
More from us
