จุดเริ่มต้นและจุดจบของ Stadia แพลตฟอร์มคลาวด์เกมมิ่งที่ดูดีมีอนาคต

โดย
Puchit Torphimai Puchit Torphimai
เขียนเมื่อ 2 min read
จุดเริ่มต้นและจุดจบของ Stadia แพลตฟอร์มคลาวด์เกมมิ่งที่ดูดีมีอนาคต

ข่าวการปิดตัวอย่างเป็นทางการของ Stadia ของกูเกิลที่จะเกิดขึ้นในปีหน้านั้นทำให้วงการเกมเริ่ม “เสียดาย” ที่แพลตฟอร์มคลาวด์เกมมิ่งซึ่งเป็นความหวังในการเปลี่ยนแปลงอนาคตการเล่นเกมนั้นต้องหายสาบสูญไปในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า ทั้งที่ก่อนหน้านี้ยังเคยมีประกาศออกมาว่าแพลตฟอร์มจะไม่ปิดตัวลงอย่างแน่นอน แต่ในช่วงวันที่ 29 กันยายน 2022 ทางทีมงานก็ออกมาประกาศแบบ “กลับคำ” ว่าพวกเขาจะยุติการให้บริการสตรีมมิ่งเสียแล้ว !

โดยแพลตฟอร์มจะปิดให้บริการในวันที่ 18 มกราคม 2023 และทีมงานของ Stadia จะถูกย้ายเข้าไปอยู่ในแผนกอื่น ๆ ของบริษัทกูเกิลแทน การประกาศครั้งนี้สร้างความมึนงงให้กับวงการเกมเอามาก ๆ ถึงการตัดสินใจของกูเกิลในครั้งนี้ ทั้ง ๆ ที่แพลตฟอร์มมีการเปิดให้บริการมาเพียงแค่ 3 ปีเท่านั้นเอง

ที่มาที่ไปของ Stadia ตั้งแต่จุดเริ่มต้นมาจนถึงช่วงประกาศปิดตัวเป็นอย่างไร คำตอบทั้งหมดอยู่ที่นี่แล้ว

กูเกิลเข้าตลาดเกมครั้งแรก

ในปี 2014 ทางกูเกิลเคยมีแผนที่จะพาบริษัทเข้าถึงกลุ่มเกมเมอร์ด้วยการเจาะตลาดไลฟ์สตรีมมิ่ง พวกเขาพยายามที่จะเทคโอเวอร์ “ทวิช” แพลตฟอร์มสตรีมมิ่งชื่อดังที่กำลังเติบโตจากการมีผู้ชมไลฟ์เกมมากขึ้นอย่างต่อเนื่องรายวัน สัญญาการซื้อขายครั้งนี้มีมูลค่าสูงถึง 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐเลยทีเดียว

แต่ไม่นานดีลนี้ก็ต้องล่มไป เพราะกูเกิลนั้นยังมีแพลตฟอร์ม “ยูทูบ” ที่อยู่ในอุตสาหกรรมสตรีมมิ่งอยู่แล้ว ทวิชเองก็อยู่ในอุตสาหกรรมนี้เช่นกัน กูเกิลไม่สามารถครอบครองสองแพลตฟอร์มที่อยู่ในอุตสาหกรรมเดียวกันได้ ตามหลักข้อกฎหมายต้านการผูดขาดของสหรัฐอเมริกาที่มีข้อห้ามไว้

ดีลการเทคโอเวอร์ทวิชนั้นตกไปเป็นของ “แอมะซอน” ในท้ายที่สุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 970 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในปี 2014 แล้วยังได้รับการดูแลโดยแอมะซอนมาจนถึงทุกวันนี้

ทางกูเกิลเองก็ไม่ได้นิ่งนอนใจกับดีลที่ล้มเหลวครั้งนี้ พวกเขาพยายามศึกษาหาแนวทางที่จะพาบริษัทตัวเองเข้าไปอยู่ในอุตสาหกรรมเกมอย่างจริงจังมากขึ้น พวกเขาใช้เวลาเกือบสองปีในการคิดโปรเจกต์ใหม่ขึ้นมาเพื่อสานต่ออุดมการณ์นี้ให้สำเร็จ

Project Yeti สู่ Project Stream

ผ่านเข้าสู่ปี 2016 ทางกูเกิลเริ่มให้ความสนใจในการสร้างแพลตฟอร์มเกมมิ่งเป็นของตัวเอง พวกเขาได้สร้าง “Project Yeti” ขึ้นมาแบบลับ ๆ ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มบริการสตรีมมิ่งเกมรูปแบบใหม่ ในช่วงนั้นมีข่าวลือเกิดขึ้นมากมายในหน้าสื่อต่าง ๆ ว่าแพลตฟอร์มใหม่ของพวกเขาสร้างขึ้นมาเพื่อใช้งานกับฮาร์ดแวร์รูปแบบใหม่ของกูเกิล ในขณะที่บางสื่อก็ตีความไปว่าอาจเป็นเกมคอนโซลแบบใหม่ หรืออาจเป็นฮาร์ดแวร์ที่ใกล้เคียงกับ Google Chromecast ก็เป็นได้ แต่เรื่องนี้ไม่เคยมีการเปิดเผยอย่างเป็นทางการจากกูเกิลเลยในปีนั้น

พวกเขาจ้าง “ฟีล แฮร์ริสัน” ผู้มีประสบการณ์สูงในวงการเกมที่เคยทำงานให้ทั้ง ไมโครซอฟท์ และ โซนี่ มาก่อน มาดูแลโปรเจกต์ใหม่ของพวกเขา แล้วให้แฮร์ริสันหาคนเข้ามาเป็นทีมงานเพิ่มตามอีเวนท์เกมและเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่กูเกิลเข้าไปมีส่วนร่วมในช่วงปี 2018

หลังจากที่โปรเจกต์เริ่มมีทีมผู้พัฒนาเพิ่มเข้ามา พวกเขาก็ได้ตั้งชื่อโปรเจกต์เป็น “Project Stream”พร้อมกับตั้งเป้าหมายสำหรับแพลตฟอร์มนี้ให้มีความ “แตกต่าง” จากบริการอื่น ๆ ของคู่แข่ง เช่น PlayStation Now, GeForce Now หรือ OnLive เป็นต้น โดยให้ลูกค้าสามารถใช้แพลตฟอร์มผ่านเว็บเบราเซอร์ Google Chrome และไม่ต้องติดตั้งซอฟท์แวร์ใด ๆ เพิ่มเลย ตัวแพลตฟอร์มจะใช้ฮาร์ดแวร์กราฟิก AMD Radeon ในการควบคุมระบบเป็นหลัก ส่วนเกมแรกที่พวกเขาใช้ทดลองเล่นผ่านแพลตฟอร์มคือเกม Doom (2016) โดยตัวเกมสามารถเล่นผ่านเบราเซอร์ได้เป็นปกติเหมือนกับว่าผู้เล่นดาวน์โหลดเกมตัวเต็มไว้ในพีซีอยู่แล้ว

Project Stream เปิดตัวครั้งแรกในเดือนตุลาคม 2018 พวกเขาได้เชิญผู้คนให้มาร่วมทดลองระบบเบตาของพวกเขาด้วยการเล่นเกม Assassin’s Creed Odyssey ฟรี (และยังแจกเกมเต็มให้ผู้เข้าร่วมทดสอบทุกคนฟรีอีกด้วย) โดยมีเงื่อนไขว่าพวกเขาจะต้องมีค่าความเร็วอินเทอร์เน็ตที่เหมาะสมในการเล่นเกมผ่านเว็บเบราเซอร์ Chrome ได้

เปิดตัว Stadia

หลังจากที่ Project Stream เริ่มมีทิศทางชัดเจนขึ้นและมีการตอบรับที่ดีจากผู้ร่วมทดสอบ ทีมงานขอโปรเจกต์นี้ที่นำโดยแฮร์ริสัน ได้เปลี่ยนชื่อโปรเจกต์ใหม่เป็น “Stadia” ส่วนทางกูเกิลก็ได้ตอบแทนทีมงานด้วยการจัดตั้ง Stadia Games and Entertainment Division ขึ้นมาในเดือนมีนาคม 2019 โดยให้ “เจด เรย์มอนด์” เป็นหัวหน้าแผนกนี้ พวกเขาได้ไปเปิดตัว Stadia เป็นครั้งแรกในอีเวนท์ Game Developers Conference ซึ่งจัดขึ้นในเดือนเดียวกัน

Stadia Games and Entertainment Division มีหน้าที่หลักคือการนำเกมที่พวกเขาได้มาจากค่ายเกมต่าง ๆ มาพัฒนาใหม่ให้สามารถนำไปเล่นในแพลตฟอร์ม Stadia โดยสตูดิโอแรกของพวกเขาเริ่มก่อตั้งขึ้นในวันที่ 24 ตุลาคม 2019 ที่เมืองมอนทรีออล ประเทศแคนาดา

แต่เท่านั้นก็คงไม่พอสำหรับพวกเขา ในเดือนธันวาคม 2019 ทางแผนกได้ซื้อ Typhoon Studios เพื่อมาช่วยสร้างคอนเทนต์ใหม่ ๆ ให้กับแพลตฟอร์มอีกด้วย ก่อนที่พวกเขาจะมีสตูดิโอที่สองในลอส แองเจลิส ในเดือนมีนาคม 2020 ที่มี “แชนนอน สตัดสติล” เป็นผู้ดูแลหลัก

Stadia กลายเป็นแพลตฟอร์ม “คลาวด์เกมมิ่ง” เต็มรูปแบบในวันที่ 19 พฤศจิกายน 2019 และกลายเป็นก้าวแรกที่สำคัญของบริษัทกูเกิลที่เริ่มก้าวเข้ามาอยู่ในอุตสาหกรรมเกมอย่างจริงจัง

ฟีเจอร์ต่าง ๆ ของ Stadia

Stadia คือแพลตฟอร์ม “คลาวด์ เกมมิ่ง” ที่สามารถเล่นผ่านเครื่อง Chromecast Ultra, แอนดรอยด์ทีวี, พีซี (เล่นผ่านเบราเซอร์ Chrome หรือเบราเซอร์อื่น ๆ ที่ใช้ระบบ Chromium), Chromebook (แล็ปท็อปหรือแท็บเล็ตที่ใช้ระบบ Chrome OS) ในขณะที่สมาร์ทโฟนแอนดรอยด์ต้องเล่นผ่านแอพพลิเคชันของ Stadia และสมาร์ทโฟน iOS สามารถเล่นผ่านเบราเซอร์ Safari ได้เลย ฐานการสตรีมมิ่งของ Stadia นั้นจะอยู่ภายใต้การดูแลของกูเกิลมาโดยตลอด

ผู้ใช้ Stadia สามารถเข้าถึงบริการพื้นฐานต่าง ๆ ได้ฟรี มีตัวเลือกทั้งเกมฟรีและเกมต่าง ๆ ที่ต้องซื้อรองรับอยู่ในแพลตฟอร์ม หรือจะเลือกสมัครสมาชิกรายเดือน “Stadia Pro” เพื่อเล่นเกมด้วยความชัดภาพระดับ 4K บวกกับระบบภาพแบบ HDR ระบบเสียงแบบ Surround 5.1 พร้อมกับเฟรมเรทสูงสุดถึง 60 FPS ในขณะที่เกมฟรีทั้งหมดที่เคยเพิ่มเข้ามาในบัญชีก็จะคงอยู่ในคลังแบบถาวรทันที ทั้งหมดนี้คือ “สิทธิพิเศษสำหรับสมาชิกระดับโปร” ของ Stadia

นอกจากนี้แล้ว ผู้ใช้ทั้งระบบปกติและโปรยังสามารถเล่นโหมด Multiplayer โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ เพิ่มได้อีกด้วย ในขณะที่การควบคุมในเกมก็มีตัวเลือกให้ใช้มากมาย ไม่ว่าจะเป็นคีย์บอร์ดบวกเมาส์แบบปกติ หรือจะเป็นคอนโทรลเลอร์ Stadia ที่ออกแบบมารองรับแพลตฟอร์มโดยเฉพาะ รวมถึงคอนโทรลเลอร์แบบ USB/Bluetooth แบรนด์อื่น ๆ ก็สามารถใช้งานในแพลตฟอร์มนี้ได้เช่นกัน

A white video game controller

Description automatically generated with medium confidence

จุดแตกหักแรกของแพลตฟอร์ม

Stadia ได้รับการตอบกลับแตกต่างกันไปจากกลุ่มผู้ใช้และนักรีวิว บ้างก็บอกว่าแพลตฟอร์มนี้คือความหวังในการสตรีมมิ่งเกมที่ผู้คนจะเข้าถึงการเล่นเกมได้สะดวกขึ้น การเล่นเกมค่อนข้างลื่นไหลเหมือนกับเล่นในระบบคอนโซลหรือพีซีแบบปกติ

ในขณะที่อีกกลุ่มก็บอกว่าแพลตฟอร์มนี้ยังขาดฟีเจอร์และคอนเทนต์สำคัญ ๆ ไปมากมาย ผู้ใช้บางกลุ่มเองก็ไม่ต้องการที่จะเสียเงินให้กับแพลตฟอร์มแล้วเกิดความรู้สึกว่าตัวเองไม่ได้ครอบครองเกมไว้อย่างจริงจัง พวกเขาไม่ต้องการเสียเงินรายเดือนเพื่อไปเสียเงินค่าเกมในแพลตฟอร์มเพิ่มอีก

ภาพรวมตั้งแต่วันเปิดตัวแพลตฟอร์มมาจนถึงปัจจุบัน Stadia ไม่สามารถทำให้ยอดผู้ใช้ของแพลตฟอร์มเป็นไปตามเป้าหมายของตัวเอง พวกเขาไม่สามารถตีตลาดสู้กับคู่แข่งอื่น ๆ อย่าง PlayStation, Amazon หรือ Microsoft ได้เลย

ถึงแม้ว่าในขณะนั้นพวกเขามีแผนการที่จะพัฒนาเกมแบบเอ็กซ์คลูซีฟลงให้กับแพลตฟอร์ม รวมถึงมีแผนจะนำเกมจากค่ายเกมอื่น ๆ เข้ามาอยู่ในระบบก็ตาม แต่สุดท้ายพวกเขาก็ต้องเริ่มหยุดการเดินงานของสตูดิโอต่าง ๆ ในเครือของตัวเองไป ปัญหาหลักที่เกิดขึ้นคือพวกเขาไม่สามารถลูกค้ามาใช้งานแพลตฟอร์มได้มากเท่าที่ควร

ตั้งแต่ปี 2021-2022 ที่ผ่านมา สื่อต่าง ๆ ก็เริ่มออกมาปล่อยข่าวลือว่า Stadia มีแผนที่จะปิดตัวลงเร็ว ๆ นี้ ทางกูเกิลเองก็ได้ออกมาประกาศในวันที่ 29 กรกฏาคมที่ผ่านมาว่าเรื่องนี้ไม่เป็นความจริง แม้ว่าก่อนหน้านี้ในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ 2021 กูเกิลได้ออกมาประกาศปิดตัว Stadia Games and Entertainment Division พร้อมกับการประกาศแยกทางกับ Typhoon Studios โดยให้เหตุผลว่าพวกเขาอยากให้ความสำคัญกับการเปลี่ยนแนวทางไปเป็นการพัฒนาและจัดจำหน่ายเกมขึ้นมาเองก็ตาม ทำให้กระแสข่าวลือว่ากูเกิลจะปิดตัว Stadia ก็ยังคงมีมาเรื่อย ๆ หลายเดือนหลังจากนั้น

กูเกิลแยกทางกับ Stadia และสตูดิโอในเครือ

แฮร์ริสัน หนึ่งในผู้นำและรองประธานของ Stadia เองก็เคยออกมาให้สัมภาษณ์ถึงการตัดสินใจของกูเกิลในการยุบ Stadia Games and Entertainment Division รวมถึงการแยกทางกับ Typhoon Studios ว่าพวกเขาต้องการที่จะให้แพลตฟอร์มนี้ “คล้อยตาม” ตัวแทนผู้จัดจำหน่ายเพื่อช่วยเหลือผู้พัฒนาเกมจากแหล่งภายนอก พวกเขาคิดว่านี่คือแนวทางระยะยาวที่ควรจะเป็นเพื่อให้อุตสาหกรรมเกมเติบโตขึ้น

การประกาศปิดตัวของ Stadia ในช่วงปี 2021 ส่งผลกระทบโดยตรงให้กับทีมงานของพวกเขามากกว่า 150 คน หนึ่งในนั้นคือเรย์มอนด์ที่ลาออกจากกูเกิลในวันที่มีการประกาศ พวกเขาขาดแคลนเงินทุนที่จะมาสนับสนุนการทำงาน เพราะ Stadia ไม่ได้เป็นที่สนใจมากนักในกลุ่มเกมเมอร์ ทำให้ลูกค้ามีน้อย รายได้ก็น้อยตามไปด้วย พนักงานบางส่วนที่อยู่ในแผนกก็ต้องย้ายไปทำงานในแผนกอื่น ๆ ของกูเกิลแทน บางคนก็ตัดสินใจลาออกไปเลย นับแค่เดือนพฤษภาคม 2021 เดือนเดียว กลุ่มผู้นำในทีม Stadia ได้ลาออกจากกูเกิลไปถึง 6 คน

ในขณะที่ Stadia ก็ยังเปิดให้บริการตามปกติอยู่หลังจากที่ประกาศยุบแผนกเดิมไปแล้ว พวกเขาดำเนินงานต่อไปทั้ง ๆ ที่ต้องสูญเสียบุคลากรคนสำคัญไปมากมาย พวกเขาพยายาม “ชักชวน” ผู้พัฒนาเกมหลายเจ้าให้มาเข้าร่วมโปรแกรมของ Stadia โดยมีข้อเสนอในการหักค่าส่วนแบ่งเหลือเพียง 15% หากเกมของผู้พัฒนานั้น ๆ ทำรายได้รวมแล้วไม่เกิน 3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ พวกเขาจะแชร์ส่วนแบ่งค่าธรรมเนียม Stadia Pro อีก 70% ให้กับผู้พัฒนาเกมต่าง ๆ ที่นำเกมเข้ามาในระบบตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2021 (ส่วนแบ่งนี้จะเอาชั่วโมงการเล่นเกมนั้น ๆ ของผู้ใช้ Stadia มาช่วยคิดด้วย) และสุดท้าย พวกเขาจะมีส่วนแบ่งการตลาดให้กับผู้พัฒนาเกมต่าง ๆ ที่สามารถดึงผู้ใช้เข้ามาสมัครสมาชิก Stadia Pro ผ่านลิงก์เชิญต่าง ๆ อีกด้วย

หลังจากนั้นในเดือนตุลาคม 2021 ทางกูเกิลได้จดทะเบียน Stadia ให้เป็นผลิตภัณฑ์แบบ “White-Label” (สินค้าหรือบริการที่สร้างโดยบริษัทหนึ่งแล้วให้บริษัทอื่นนำไปรีแบรนด์ใหม่ให้ดูเหมือนว่าพวกเขาสร้างมันขึ้นมาเอง) ในขณะที่ทางกูเกิลก็ได้ออกมาประกาศในทวิตเตอร์ว่าพวกเขายังมีแผนที่จะนำเกมดังอีกหลายรายการเข้ามาอยู่ใน Stadia ให้ได้ในปี 2022

ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่กูเกิลทำเพื่อกลบข่าวลือถึงการปิดตัวแพลตฟอร์ม Stadia ที่มีเข้ามาแบบไม่พักตั้งแต่ปี 2021 ที่ผ่านมา แต่แล้วในวันหนึ่งทุกอย่างก็เปลี่ยนไป เมื่อกูเกิลออกมาประกาศเรื่องสำคัญอีกครั้งในเดือนกันยายน 2022 นี้

ปิดตัวอย่างเป็นทางการ

วันที่ 29 กันยายน 2022 กูเกิลได้ออกมาประกาศว่าพวกเขาจะปิดตัว Stadia โดยให้เหตุผลว่าแพลตฟอร์มของพวกเขาไม่มีลูกค้ามากพอที่จะไปต่อได้ การบริการทั้งหมดจะยุติในวันที่ 18 มกราคม 2023 พร้อมกับชดเชยด้วยการคืนเงินเต็มจำนวนให้ผู้ใช้แพลตฟอร์ม รวมถึงลูกค้าที่สั่งซื้อฮาร์ดแวร์ต่าง ๆ ของ Stadia ผ่านร้านค้าของกูเกิลและ Stadia ฟีเจอร์ทั้งหมดหน้าร้านค้าต่าง ๆ ก็ต้องยุติตามกันไปด้วยนับตั้งแต่วันประกาศ

การประกาศครั้งนี้สร้างความประหลาดใจให้กับทั้งทีมงานของ Stadia ด้วยกันเองที่ไม่ได้รับรู้ว่าพวกเขาอาจไม่ได้ไปต่อแล้ว ในขณะที่ข่าวลือที่เคยเกิดขึ้นมากมายในวงการสื่อเกมก็กลายเป็นจริง ส่วนผู้พัฒนาเกมหลายเจ้าที่เป็นพาร์ทเนอร์กับ Stadia ก็เริ่มออกมาแสดงถึงความกังวลในเรื่องการเปิดตัวเกมใหม่ ๆ ผ่านแพลตฟอร์มนี้ เรียกได้ว่าทั้งทีมงาน ผู้ใช้ รวมถึงค่ายเกมก็ทำตัวกันแทบไม่ถูกเลยเมื่อแพลตฟอร์มมีแผนต้องยุติไปแบบนี้ บางค่ายเกมก็เริ่มออกมาประกาศให้ผู้ใช้ Stadia สามารถโอนย้ายเกมของค่ายที่พวกเขาสั่งซื้อจากแพลตฟอร์มไปอยู่ในพีซีผ่านแพลตฟอร์มของค่ายเกมเองได้ฟรี ๆ เพื่อชดเชยปัญหาที่เกิดขึ้น

ส่วนเทคโนโลยีและโปรเจกต์ต่าง ๆ ของ Stadia ก็จะยังอยู่และจะถูกย้ายไปใช้งานในโปรเจกต์อื่น ๆ ของกูเกิลและพาร์ทเนอร์ต่าง ๆ ของบริษัทแทน ในขณะที่เกมเมอร์รวมถึงผู้พัฒนาเกมจากค่ายต่าง ๆ ก็ยังมีความคาดหวังอยากให้มีการนำเทคโนโลยีต่าง ๆ ของ Stadia ไปใช้ให้เกิดประโยชน์มากกว่าที่เคยเป็น ซึ่งแน่นอนว่าโปรเจกต์ต่าง ๆ ของ Stadia ก็เคยถูกนำไปใช้เป็น White Label Product อยู่หลาย ๆ ครั้ง ตัวอย่างที่ชัดเจนก็จะมีค่ายเน็ตเวิร์กดังอย่าง AT&T ที่ให้ลูกค้าสามารถลองเล่น Batman: Arkham Knight ได้ฟรี ๆ ผ่านระบบ Stadia (โดยไม่ต้องเป็นสมาชิก Stadia) หรือจะเป็นทางค่ายเกม Capcom ที่นำเดโมเกม Resident Evil Village มาให้เกมเมอร์ได้ลองเล่นผ่านเว็บเบราเซอร์ต่าง ๆ ก็เป็นตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจนขึ้นว่า Stadia ไม่ได้หายไปแบบสูญเปล่าเลยทีเดียว ตราบใดที่มันยังเป็น White Label อยู่จนถึงทุกวันนี้

เหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นนี้ก็ทำให้เห็นแล้วว่าครั้งหนึ่งกูเกิลพยายามที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลงให้กับวงการเกมอย่างจริงจัง แต่ก็น่าเสียดายที่พวกเขาไม่สามารถไปถึงเป้าหมายที่ต้องการได้สำเร็จ ด้วยปัญหาเรื่องความคาดหวังที่สูงจากกลุ่มลูกค้า การขาดแคลนฟีเจอร์ต่าง ๆ ที่ควรจะไปได้ดีกว่านี้ รวมถึงรูปแบบการบริการที่ไม่ตอบโจทย์กลุ่มเกมเมอร์ในยุคนี้เพราะพวกเขามองว่ามัน “เสียเงินโดยไม่จำเป็น”

สุดท้ายนี้ หากใครอยากจะลองสัมผัสประสบการณ์การเล่นเกมผ่าน Stadia ก็ต้องรีบไปลองทันที เพราะตัวแพลตฟอร์มจะยังอยู่กับเราไปถึงแค่เดือนมกราคมนี้แล้ว ไม่มีสามารถตอบได้เลยว่าหลังจากนี้ทิศทางของ Stadia จะเป็นอย่างไรต่อ หรือว่าตัวแพลตฟอร์มจะถูกนำไปปรับใช้ในรูปแบบอื่นให้เห็นอีกหรือไม่ ทุกอย่างก็ยังเป็นเรื่องของอนาคตต่อไป

เรื่องโดย:

ที่มา:
Report: Google developing a game streaming service codenamed ‘Yeti’ with console hardware

Google’s Project Yeti hardware may be revealed at Game Developers Conference

Google confirms Stadia is not shutting down

The death of Google Stadia was not inevitable

Google Stadia is shutting down, for good

More from us

Multipotentialite writer with a strong passion in Action Games and Movies. Also interested in Cats and Dogs.
รักหมารักแมวรักการเล่นเกม!