Robin Mathews : ช่างแต่งหน้าระดับโลก ผู้คว้าออสการ์จากผลงานที่ได้รับค่าตัวเพียง 250 เหรียญฯ

โดย
ตั๋วร้อนWorldwide ตั๋วร้อนWorldwide
เขียนเมื่อ 2 min read
Robin Mathews : ช่างแต่งหน้าระดับโลก ผู้คว้าออสการ์จากผลงานที่ได้รับค่าตัวเพียง 250 เหรียญฯ

รู้หรือไม่ว่า Robin Mathews ช่างแต่งหน้าจากหนัง Dallas Buyers Club (2013) นั้นถูกจับมัดมือชกให้รับงานแบบไม่ค่อยเต็มใจนัก ด้วยงบประมาณของหนังที่วางไว้แค่ราว 3-4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ แต่เธอไม่ใช่ช่างแต่งหน้าประเภทที่แต่งหน้าดาราไปวัน ๆ ตามบรีฟที่ได้รับมอบหมาย เพราะด้วยความที่เป็นศิษย์เก่า AADA (American Academy of Dramatic Arts) รุ่น 1994 และเป็นคอหนังสายลึกด้วยแล้ว เมื่อผู้กำกับอันเป็นที่รักอย่าง Jean-Marc Vallée มาชักชวนไปร่วมละเลงหน้าผมให้นักแสดงในหนังที่เขากำกับ แม้จะเป็นงานฟรีเธอก็จะทำ ซึ่งค่าตัวในการทำงานใน Dallas Buyers Club นั้นก็แทบจะเป็นงานฟรีอยู่แล้ว คือมีงบแค่ 250 เหรียญเท่านั้น พูดกันแบบไม่แฟร์เลยคือ ค่ารถ ค่ากาแฟก็น่าจะหมดแล้ว

รูปภาพประกอบด้วย บุคคล, ผู้หญิง

คำอธิบายที่สร้างโดยอัตโนมัติ
รูปภาพประกอบด้วย บุคคล, ในอาคาร, ผู้หญิง

คำอธิบายที่สร้างโดยอัตโนมัติ



แต่ 250 เหรียญ นี้อย่าเข้าใจผิดว่าเป็นค่าแรงต่อวัน มันคืองบเหมารวมตลอดระยะเวลาการถ่ายทำ 28 คิว ตกแล้วได้วันละ 9 เหรียญ เป็นคนอื่นก็แทบจะด่า อีสัส!! หากคุณ Robin Mathews พูดไทยได้น่ะนะ กูเคยแต่งหน้าซีด ๆ ง่วง ๆ ให้ Kristen Stewart ในหนังแวมไพร์ Twilight มาแล้ว นี่มันหยามกันชัด ๆ แต่มันก็แลกมาด้วยการที่เธอจะได้ลงมือละเลงใบหน้าของทั้ง Matthew McConaughey , Jared Leto แล้วก็ Jennifer Garner ล้วนมีแต่ตัวเด็ด ๆ ที่พากันยอมลดค่าตัวลงมาเพื่อหนังเรื่องนี้ หนังไม่มีงบขนาดไหน ก็ขนาดที่ว่า Matthew McConaughey  ต้องควักเงินจ่ายช่วยค่าโปรดักชั่นไปอีกเป็นล้าน



อันที่จริงเดิมทีงบ 250 เหรียญ คืองบที่โปรดิวเซอร์หรือแม้แต่ผู้กำกับเองก็ตั้งธงมาเลยว่าแต่งหน้าคนป่วยเป็นเอดส์เนี่ยมันไม่น่ายากสักเท่าไหร่ คือปาด ๆ ให้ซีด ๆ โทรม ๆ เข้าไว้แบบที่เคยแต่งให้ Kristen Stewart ในหนังแวมไพร์นั่นกระมัง เพราะก่อนถ่าย Matthew McConaughey กับ Jared Leto สองนักแสดงนำเองก็พากันลดน้ำหนักและทำตัวให้ดูเหมือนคนเป็นเอดส์กันอยู่แล้ว แค่ปัด ๆ ปาด ๆ นิดหน่อยคงออกมาดูเหมือนคนติด HIV นั่นแหละ

รูปภาพประกอบด้วย ผนัง, ในอาคาร, บุคคล

คำอธิบายที่สร้างโดยอัตโนมัติ



แต่ความจริงมันไม่ใช่อะไรที่คิดไว้เลย เพราะในบทเขียนไว้ว่าพวกดารานำต้องกินยาต้านเชื้อ แล้วทำให้ร่างกายดีขึ้น คืนสภาพขึ้น ก็หากว่าถ้าหนังมันถ่ายกันเป็นปี ๆ คงไม่อะไรให้เครียด แต่การวางคิวไว้ 28 วัน ต้องถ่ายจบ ก็ต้องเป็นงานหนักที่จะตกมาอยู่กับช่างแต่งหน้าอย่าง Robin Mathews ที่ต้องตีโจทย์ว่าจะทำยังไงให้มันดูเดี๋ยวผอม เดี๋ยวคืนสภาพได้ในระยะเวลาการถ่ายเท่านี้

“เราต้องพาพวกเขาสลับไปมาจากรูปลักษณ์ที่ป่วยที่สุดไปสู่รูปลักษณ์ที่แข็งแรงที่สุดของพวกเขาถึง 5 ครั้งในหนึ่งวัน... พวกเขาคงไว้ซึ่งน้ำหนักที่ลดลงจากเดิม 40 ปอนด์ตลอด ดังนั้นเมื่อคุณเห็นพวกเขาในหนัง และพวกเขาดูเหมือนหนักกว่า 25 ปอนด์และมีสุขภาพดีขึ้นเพราะการใช้ยาต้าน นั่นแหละคือการแต่งหน้าของฉัน ”

รูปภาพประกอบด้วย บุคคล, ผู้หญิง, ในอาคาร, ทำท่าทาง

คำอธิบายที่สร้างโดยอัตโนมัติ



Robin Mathews กล่าวถึงงานตัวเองในหนังที่ดูเหมือนจะง่าย ๆ แต่งานเริ่มยากตรงที่บางวันที่ Matthew McConaughey ต้องมีใบหน้าเต็มอิ่มกว่าที่เป็น ก็ต้องหาสิ่งมาสวมใส่ปากเขาไว้แล้วแต่งหน้าให้ดูปรกติตามบทที่เขียนไว้ว่าตัวละครตัวนี้กินยาต้านจนสุขภาพดีขึ้น แต่ในบางวันก็ถ่ายซีนที่ Matthew McConaughey อาการทรุดหนัก แล้วบางวันมันต้องสลับไปมาระหว่างสุขภาพฟื้น กับ สุขภาพทรุด ก็บรรลัยเกิดกับช่างแต่งหน้าราคา 250 เหรียญ คนนี้สิครับ

รูปภาพประกอบด้วย บุคคล, ในอาคาร, ผนัง

คำอธิบายที่สร้างโดยอัตโนมัติ



โหดยิ่งกว่านั้นคือช่วงที่ดารานำต้องป่วยหนักจนตุ่มขึ้นผิวหนัง ก็เป็น Robin Mathews อีกนั่นแหละที่ต้องตีโจทย์เองว่าจะเอาไงกันดีด้วยงบจำกัด ถ้างบสูงกว่านี้งานคงไม่ยาก แต่เธอแบกภาระนี้ทั้งหมดด้วยงบจำกัดจำเขี่ย จึงเป็นที่มาของการหยิบยืม Corn meal ในตู้กับข้าวบ้านแม่มาใช้แต่งผิวคนเป็นเอดส์ ซึ่งไอ้ Corn meal ก็คือ ผลิตภัณฑ์จากเมล็ดข้าวโพดบดละเอียด แต่ไม่ละเอียดมากแบบเนื้อแป้ง เป็นอาหารคู่ครัวแม่เธอ ซึ่งพอมันหายไป คุณแม่ก็เริ่มมีการทวงถามว่า Corn meal ฉันหายไปไหนจ๊ะนังลูกตัวดี

รูปภาพประกอบด้วย ผนัง, ในอาคาร, ห้องดูแลผู้ป่วย, ห้อง

คำอธิบายที่สร้างโดยอัตโนมัติ



ท้ายที่สุดแล้ว จากความทุ่มเทให้หนัง Dallas Buyers Club ส่งผลให้ Robin Mathews ได้ถูกเสนอชื่อเข้าชิง Oscar ครั้งแรก เพราะก่อนหน้านี้เธอเป็นแค่ผู้ช่วยแผนก Make up แต่เมื่อมีโอกาสมารับงานอินดี้ เธอจึงเลื่อนตำแหน่งมาเป็นหัวหน้า และคว้ารางวัล Oscar สาขาแต่งหน้ายอดเยี่ยมไปครองในที่สุด แบบเหนือความคาดหมายของเธอเองด้วยซ้ำ เพราะปีนั้นมีทั้ง Bad Grandpa และ The Lone Ranger ซึ่งล้วนเป็นหนังที่มีการแต่งหน้าได้สมจริงจัดจ้าน มาเข้าชิงชัยในปีนั้น

แต่หลายคนคิดว่า Robin Mathews เอาชนะมาได้แบบค้านสายตา เมื่อเทียบกับหนังเรื่องอื่น ๆ ที่เข้าชิง ทั้งที่เบื้องหลังนั้นงบ 250 เหรียญ ของเธอ แค่เอาไปซื้อขนนกบนหัว Johnny Depp ในการเข้าฉาก The Lone Ranger ก็น่าจะหมดแล้ว



แต่อย่าได้แปลกใจว่า Robin Mathews เธอคว้า Oscar ด้วยงบแค่ 250 เหรียญได้ยังไง เพราะทัศนคติของเธอต่องานที่เธอทำมันเจ๋งมาก Sean Penn ดารารุ่นใหญ่ที่เธอเคยแต่งหน้าให้ในหนัง The Assassination of Richard Nixon และ All the King's Men คือผู้จุดประกายให้เธอมาจุดนี้ เขาเคยบอกกับเธอว่า

"อย่าตั้งคำถาม อย่าโต้เถียง ทำมันให้เสร็จเดี๋ยวนี้ ทีมงานที่ดีทุกคนในกองถ่ายคือผู้แก้ปัญหา นั่นคือสิ่งที่เราต้องทำทุกวัน ส่วนใหญ่มันคือการแก้ปัญหาใหม่ ๆ ที่เกิดขึ้น คุณต้องเป็นนักแก้ปัญหาชั้นเยี่ยม "

รูปภาพประกอบด้วย ผู้ชาย, ผนัง, บุคคล, ในอาคาร

คำอธิบายที่สร้างโดยอัตโนมัติ



นี่คือสิ่งที่เธอยึดมั่นถือมั่นมาตลอด บวกกับทัศนคติเดิมของเธอที่น่าสนใจและช่างแต่งหน้าในกองถ่ายทั้งโลกควรนำไปใช้คือ เธอกล่าวว่า

" ในอุตสาหกรรมภาพยนตร์และโทรทัศน์ ความต้องการในการแต่งหน้าเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ กล้อง HD รุ่นใหม่ ๆ ออกมาอย่างรวดเร็ว และพวกเขาต้องการเทคนิคแต่งหน้าที่เปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ฉันคิดว่ามันสำคัญมากที่จะต้องค้นคว้าและทดลองใช้ผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ อยู่เสมอ เพราะสิ่งที่ใช้ได้ผลอย่างสมบูรณ์แบบในหนังเรื่องที่แล้วของคุณ อาจดูแย่สำหรับกล้องรุ่นใหม่ ๆ "

พูดง่าย ๆ คือช่างแต่งหน้าต้องศึกษาเรื่องกล้องด้วย เพราะไอ้ที่เคยแต่ง ๆ แล้วออกมาดีเรื่องที่แล้ว มาเจอกล้องรุ่นใหม่ หน้ามึงอาจจะลอยเหมือนสก๊อยซ้อนท้ายเด็กแว้นก็ได้

รูปภาพประกอบด้วย บุคคล, ผู้หญิง, ยืน, กระโปรง

คำอธิบายที่สร้างโดยอัตโนมัติ



อีกแนวคิดของเธอคือ

" หากผู้ชมสังเกตเห็นการแต่งหน้าบนจอ แสดงว่าฉันไม่ได้ทำงานของฉันอย่างถูกวิธี "

รูปภาพประกอบด้วย ในอาคาร, ผนัง, บุคคล, เพดาน

คำอธิบายที่สร้างโดยอัตโนมัติ



จากการคว้า Oscar ด้วยงบ 250 เหรียญ นี้เอง ทำให้  Robin Mathews ขึ้นรับรางวัลคู่กับหัวหน้าช่างทำผมอย่าง Adruitha Lee ที่ตอนนี้ได้ดีไปแล้ว ผูกปิ่นโตยาว ๆ กับการออกแบบทรงผมให้ Dwayne Johnson หรือ The Rock ในหนังทุกเรื่องที่เขาเล่นในยุคหลัง ๆ ส่วน Robin Mathews แม้จะรับงานแต่งหน้าในหนังฟอร์มยักษ์บ้าง อาทิ Ender's Game

หรือ Pacific Rim: Uprising แต่เธอยังคงรับใช้จิตวิญญาณในการแต่งหน้าให้หนังคุณภาพทุนต่ำในฐานะหัวหน้าทีม Make up และผลงานอีกชิ้นที่เธอภูมิใจคือการแต่งหน้าให้ Reese Witherspoon ในหนัง Wild ปี 2014 และหากย้อนกลับไปที่คำถามว่าทำไมเธอจึงรับงานแต่งหน้าในหนัง Dallas Buyers Club ด้วยงบเท่านั้น เธอเฉลยว่ารับงานนี้เพราะอยากรู้ว่า Jared Leto นักแสดงอีกคนที่เธอชื่นชอบ เขาเป็นคนยังไง ก็แค่นั้นเอง

More from us

เราจะจับทุกอย่างสิ่งมารีวิวว่ามันร้ายกาจขนาดไหน
รักหมารักแมวรักการเล่นเกม!