ชายหนุ่มพบกระดาษโน๊ตปริศนาในห้องเช่าพร้อมข้อความชวนขนลุก ชาวเน็ตช่วยสืบจนพบความจริงที่น่าขนลุกยิ่งกว่า

โดย
Bob Ajawakom Bob Ajawakom
เขียนเมื่อ
ชายหนุ่มพบกระดาษโน๊ตปริศนาในห้องเช่าพร้อมข้อความชวนขนลุก ชาวเน็ตช่วยสืบจนพบความจริงที่น่าขนลุกยิ่งกว่า

ในปี 2015 ผู้ใช้งาน Reddit นามว่า “RBradbury1920” (ขอสมมติให้เขาชื่อ “แบรด”) เข้ามาโพสต์เรื่องราวที่น่าขนลุกเพื่อขอความช่วยเหลือจากชาวเน็ต ใจความว่า...

เมื่อวันที่ 15 เมษายน แบรดพบกระดาษโพสต์อิทสีเหลืองติดอยู่บนโต๊ะทำงานของเขา บนกระดาษเขียนข้อความจดบันทึกสิ่งที่เขาต้องทำในวันนั้น ความน่าประหลาดก็คือ ข้อความนั้นไม่ใช่ลายมือของเขา และแบรดก็ไม่ได้บอกใครเลยว่าเขาจะทำอะไรวันนั้นบ้าง…แบรดคิดในใจว่า สงสัยคงละเมอเขียนตอนง่วงๆละมั๊ง เขาจึงไม่ใส่ใจอะไรแล้วก็ขยำกระดาษทิ้งไป

วันที่ 19 เมษายน แบรดพบกระดาษโพสต์อิทสีเหลืองติดอยู่ที่เก้าอี้ทำงานพร้อมข้อความว่า “อย่าลืมเซฟเอกสาร” และเช่นเดียวกับคราวที่แล้ว ข้อความบนกระดาษนั้นไม่ใช่ลายมือของเขา และรอบนี้เขาก็มั่นใจมากว่าไม่ได้เป็นคนเขียนและไม่ได้เป็นคนเอามาแปะเอาไว้แน่ๆ แบรดจึงเริ่มคิดถึงความเป็นไปได้ต่าง ๆ นา ๆ เดินสำรวจทั่วห้องก็ไม่มีร่องรอยของการงัดแงะเข้ามาจากภายนอก แบรดจึงตัดสินใจใช้กล้องเว็บแคมบันทักภาพในห้องเอาไว้ตลอดเวลา

วันที่ 28 เมษายน เขาตื่นมาพบกับกระดาษโพสต์อิทปริศนาอีกแผ่นนึง คราวนี้ข้อความบนกระดาษชวนให้ขนลุกอย่างบอกไม่ถูก ข้อความนั้นบอกว่า “เจ้าของอพาร์ตเมนต์ไม่อยากให้เราคุยกัน แต่เราจำเป็นต้องคุยกันจริงๆ” ด้วยความขนลุก เขารีบไปเปิดคอมพิวเตอร์เช็คภาพจากเว็บแคม ซึ่งไม่พบความผิดปกติใดๆในห้อง จนเขาเช็ค recycle bin ที่ปรากฎว่าไม่มีไฟล์อะไรหลงเหลืออยู่ในนั้น เขาคิดกับตัวเองว่าเขาไม่ได้เป็นคนลบไฟล์ในถังขยะทิ้งแน่ๆ มันจะต้องมี “คนอื่น” ลบไฟล์วิดีโอทำลายหลักฐานอย่างแน่นอน

วันที่ 1 พฤษภาคม วันนี้แบรดตื่นมาพบกับกระดาษโพสต์อิทว่างเปล่าที่หน้าประตูห้องด้านนอก…น่าประหลาด น่าขนลุก กระดาษโพสต์อิทว่างๆที่คราวนี้ติดอยู่ด้านนอกประตู แบรดเริ่มเดินสำรวจไปทั่วอพาร์ตเมนต์แล้วก็พบกับกระดาษโพสต์อิทหลากสีสันติดประตูห้องอื่นๆไปทั่วทั้งอพาร์ตเมนต์ นี่ไม่ใช่เรื่องธรรมดาเสียแล้ว

แบรดกลับไปค้นเอกสารในห้องจนเจอกับจดหมายจากเจ้าของอพาร์ตเมนต์ที่ส่งให้เขาในวันแรกที่ย้ายเข้ามาอยู่ เขาเอาจดหมายนั้นมาเทียบกับกระดาษโพสต์อิทแผ่นก่อนๆจนแน่ใจว่าลายมือบนจดหมายกับบนกระดาษนั้นเป็นลายมือเดียวกัน แบรดมั่นใจว่าต้องเป็นเจ้าของอพาร์ตเมนต์ที่กำลังคุกคามเขาอย่างแน่นอน เขาจึงมาปรึกษากับชาวเน็ตใน Reddit ว่า กระดาษโน็ตกับจดหมายลายมือเดียวกันนี้สามารถใช้เป็นหลักฐานในการแจ้งความเอาผิดกับเจ้าของอพาร์ตเมนต์หรือไม่ นอกเหนือจากนั้นแบรดเริ่มมีอาการปวดหัวแบบไม่ทราบสาเหตุ และเริ่มมีอาการแปลกๆทางร่างกาย หรือว่านี่จะไม่ใช่ฝืมือของมนุษย์…?

จากการพยายามสืบของชาวเน็ตใน Reddit กลับพบความจริงที่น่าขนลุกมากกว่าที่แบรดคิดเป็นอย่างมาก เพราะข้อมูลจากการสอบถามในกระทู้ แบรดบอกข้อมูลเพิ่มเติมว่าห้องนอนในอพาร์ตเมนต์ของเขาเป็นห้องนอนแคบ ๆ ที่ไม่มีหน้าต่าง การอยู่ในห้องนอนที่อากาศไม่ถ่ายเทอาจจะเป็นสาเหตุที่แท้จริงก็ได้ สันนิษฐานได้ว่ากระดาษลึกลับเหล่านั้นไม่ได้เป็นฝีมือของผู้ร้ายที่ไหน แต่มีสาเหตุมาจากสิ่งที่ไม่มีตัวตน ไม่มีสี ไม่มีกลิ่นที่เรียกว่า “คาร์บอนมอนอกไซด์” (CO) ต่างหาก…ห๊า! ยังไงนะ

ใช่แล้ว อ่านไม่ผิด ผู้ร้ายในเรื่องนี้ไม่ใช่ผีหรืออาชญากรโรคจิต แต่เป็นอาการ “คาร์บอนมอนอกไซด์เป็นพิษ” ของแบรดเอง เพราะห้องนอนของแบรดที่คับแคบและไม่มีหน้าต่างทำให้เขานอนสูดดมก๊าซเข้าไปปริมาณมากจนเกิดอาการเห็นภาพหลอน หลงลืมและพารานอยด์นั่นเอง แบรดได้รับคำแนะนำจากชาวเน็ตว่าให้ลองเอาเครื่องตรวจวัดปริมาณ CO มาวัดดูจะได้คำตอบได้ง่ายที่สุด ซึ่งปรากฎว่าพอลองวัดดูแล้วเขาเจอค่า CO ในห้องนอนสูงถึง 100 ppm เลยทีเดียว และหลังจากที่เจอผู้ร้ายตัวจริงและแก้ไขจนหายดีแล้ว จดหมายที่แบรดเคยเอามาเทียบลายมือนั้นจริง ๆ แล้วไม่ใช่จดหมายจากเจ้าของอพาร์ตเมนต์ด้วยซ้ำ แต่เป็นจดหมายจากแม่ของแบรดเองที่ไม่เกี่ยวอะไรกันแต่แรก เฮ้ย มันหลอนกันได้ถึงขั้นนั้นจริงๆหรือ?

โดยปกติแล้วระดับ CO เพียง 20-30 ppm หากเข้าสู่ร่างกายติดต่อกันเป็นเวลานาน ๆ ก็สามารถทำให้เกิดอันตรายได้แล้ว ซึ่งภาวะคาร์บอนมอนอกไซด์เป็นพิษนั้นมีตั้งแต่อาการที่ไม่รุนแรงมาก เช่น ปวดหัว วิงเวียนศีรษะ อาเจียน แน่นหน้าอก ตาเห็นภาพไม่ชัด อ่อนเพลีย ไปจนถึงขั้นรุนแรง เช่น หัวใจเต้นเร็ว เห็นภาพหลอน สับสน เลอะเลือน จำอะไรไม่ได้ ไตวาย และถึงขั้นเสียชีวิต ฉะนั้นใช่แล้ว มันหลอนไปได้ขนาดนั้นจริง ๆ และนั่นแปลว่าถ้าแบรดยังนอนอยู่ในห้องนั้นโดยไม่ได้มาตั้งกระทู้ถามชาวเน็ต แบรดอาจจะตายไปแล้วก็ได้

สาเหตุของคาร์บอนมอนอกไซด์เป็นพิษนั้น เกิดจากการสูดดมก๊าซเข้าไปในปริมาณมากจนคาร์บอนมอนอกไซด์เข้าไปแทนที่อ๊อกซิเจนในเม็ดเลือด และเมื่อเลือดถูกส่งไปเลี้ยงอวัยวะต่างๆในร่างกาย ทำให้อวัยวะรวมไปถึงเซลล์ทุกส่วนในร่างกายขาดอ๊อกซิเจนในที่สุด

พิษจากการสูดก๊าซนี้เกิดได้จากการอยู่ในที่ที่อากาศถ่ายเทไม่ดี สถานที่ปิดมิดชิด การจุดไฟ ฯลฯ ซึ่งในเรื่องลึกลับที่แบรดได้เล่ามาในตอนต้นนั้นเป็นเรื่องที่เกิดในเมืองหนาว ที่มีการใช้แก๊ซและการจุดเตาผิงให้ความอบอุ่นในบ้านเป็นปกติ โอกาสที่จะเจอกับคาร์บอนมอนอกไซด์เป็นพิษอาจจะมีมากกว่าพวกเราชาวเน็ตไทย แต่นั่นก็ไม่ได้แปลว่าเราจะปลอดภัยจากมันซะทีเดียว เพราะคาร์บอนมอนอกไซด์นั้น ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น เราไม่สามารถรู้ได้ว่าเราสูดเข้าไปในปริมาณเท่าไร ดังนั้น ถ้าเป็นไปได้ หากเริ่มมีอาการปวดหัวแน่นหน้าอกแบบไม่รู้สาเหตุ ก่อนจะเริ่มหลอนว่ามีคนจะมาฆ่าเรา หรือไปหาหมอผีมาปัดรังควาญในห้องนอน ลองสำรวจดูก่อนว่าห้องที่เราอยู่นั้นอากาศปลอดโปร่งหรือไม่ เพราะเคยมีเคสที่บันทึกไว้ในวารสารการแพทย์ในปี 1921 เลยว่า มีคนเคยเห็นภาพหลอนระดับเดียวกับเรื่องผีในรายการของพี่แจ็ค The Ghost Radio ยังไงยังงั้น เรื่องนี้น่ากลัวกว่าเรื่องผี เพราะมันเป็นเรื่องจริง และมันเกิดกับคุณได้จริงๆโดยที่คุณไม่รู้ตัว


เนื้อหาน่าสนใจที่เกี่ยวข้อง

The Baltic Fleet ชิบหายการทหารแห่งจักรวรรดิรัสเซีย
เปิด! สภาอังกฤษ ปิด! ประตูใส่หน้าผู้แทนพระองค์ หลากพิธีกรรมแปลก ๆ ในรัฐสภาอังกฤษ

แหล่งที่มา

https://www.reddit.com/r/legaladvice/comments/34l7vo/ma_postit_notes_left_in_apartment/
https://www.reddit.com/r/legaladvice/comments/34m92h/pdate_ma_postit_notes_left_in_apartment/
https://haamor.com/
https://www.thisamericanlife.org/

More from us

บรรณาธิการบริหาร The E World คุณพ่อของลูกแมวสามสี เป็นคนติดบ้าน อยู่บ้านจนกำแพงขอร้องให้ออกจากบ้านบ้าง แต่ก็ยังไม่ยอมออก เถียงกำแพงไปว่ากูไม่ออก ออกแล้วแมวกูจะเอาอะไรแดก
รักหมารักแมวรักการเล่นเกม!