ในขณะนี้ก็เข้าสู่ช่วงเวลาสุดท้ายของปีแล้ว พร้อมเป็นช่วงเวลาที่เทศกาลคริสต์มาสใกล้เข้ามาถึง เมื่อเดินออกไปข้างนอกบ้าน ก็อาจพบกับพื้นที่ที่ถูกตกแต่งด้วยไฟหลากสี พร้อมต้นคริสต์มาสขนาดใหญ่ รวมทั้งเราอาจได้ยินเพลง All I Want For Christmas Is You โดย มารายห์ แครี เหมือนเช่นเคย จนถูกล้อเลียนว่าเพลงนี้เป็นดั่ง Passive Income ของเธอ
แต่ในอีกมุมหนึ่ง โดยเฉพาะในโลกของอนิเมะและเกม ก็มีวัฒนธรรมบางอย่างเกี่ยวกับคริสต์มาสที่เล่นกันมานับสิบปี และไม่มีทีท่าว่าจะเลิกเล่นกันง่าย ๆ นั่นคือสิ่งที่เรียกว่า “Padoru” สำหรับใครที่ยังไม่ทราบว่าสิ่งนี้คืออะไร และทำไมผู้คนบนโลกอินเทอร์เน็ตถึงชอบใจมันเอามาก ๆ ต้องติดตามกันต่อในบทความนี้ครับ
Fate จักรวาลไลท์โนเวล และเกมสุดกว้างใหญ่
Fate คือซีรีส์เกมและไลท์โนเวลจากผู้พัฒนา TYPE-MOON แต่เราจะไม่ได้มาสรุปเนื้อหาทั้งหมดของเกมจากผู้พัฒนานี้แต่อย่างใด และเราเชื่อว่าผู้อ่านอาจรู้จักกับ Fate มาไม่มากก็น้อย แต่ก็อาจจะตามเก็บได้ไม่หมดเสียทีเดียว เพราะจุดเริ่มต้นทั้งหมดเริ่มตั้งแต่ Fate/stay night ในรูปแบบวิชวลโนเวลมาตั้งแต่ปี 2004 และได้ขยายจักรวาล หรือสร้างภาคเสริมอีกหลายรูปแบบ
แม้จะมีภาคหลัก ภาคเสริม หรือภาคต่อจนไล่ดู หรือเล่นให้หมดยาก แต่ทุก ๆ ภาค จะเน้นเล่าถึง “สงครามจอกศักดิ์สิทธิ์” ที่มีเหล่ามาสเตอร์อัญเชิญเซอร์แวนท์ หรือจิตวิญญาณวีรชนออกมาต่อสู้กัน จนเหลือเพียงกลุ่มสุดท้ายเท่านั้นที่จะได้ครอบครองจอกศักดิ์สิทธิ์ ที่น่าสนใจคือ ตัวละครเซอร์แวนท์ ที่ปรากฏในแต่ละเรื่อง นั้นมีต้นแบบมาจากบุคคลที่มีอยู่ในประวัติศาสตร์จริง
และตัวละครที่เป็นต้นแบบของ “Padoru” ก็คือ Nero Claudius เซอร์แวนท์คนหนึ่งที่มาจากเนื้อหาในวิดีโอเกมจากซีรีส์ Fate ที่โด่งดังอย่าง Fate/EXTRA เพราะภาคนี้มีการวางจำหน่ายนอกประเทศญี่ปุ่น ทั้งฝั่งอเมริกาเหนือและยุโรปอย่างจริงจังบนเครื่องเล่น PSP และยังเป็นเกมแนว RPG ที่เข้าถึงผู้เล่นได้มากขึ้นอีกด้วย
Nero Claudius จักรพรรดิโรมัน ผู้ให้กำเนิดมีม
อย่างที่เล่าไปแล้วว่า ในซีรีส์ Fate จะอ้างอิงบุคคลในประวัติศาสตร์มาเป็นตัวละคร และ Nero Claudius เองก็เป็นบุคคลที่มีอยู่จริงเช่นกัน โดยบุคคลต้นฉบับคือจักรพรรดิ์แห่งอาณาจักรโรมันที่ครองราชย์ในช่วงปี ค.ศ. 54-68 และมีการถกเถียงโดยนักประวัติศาสตร์มาอย่างต่อเนื่องว่าจักรพรรดิ์ Nero Claudius ครองราชย์โดยธรรม หรือเป็นทรราช เนื่องจากพระองค์มีจุดจบที่ไม่ดีนัก เพราะถูกบังคับให้สละราชสมบัติ และปลงพระชนม์ตนเองในเวลาไม่นาน
แต่สำหรับ Nero Claudius ใน Fate จะเป็นตัวละครเพศหญิง เช่นเดียวกับตัวละครอื่น ๆ ที่ถูกสลับเพศเช่นกัน พร้อมกับมีอีกชื่อหนึ่งคือ Red Saber จากการที่เธอเป็นตัวละครคลาส Saber ในเนื้อเรื่อง แต่ก็ยังคงเนื้อหาเบื้องหลังตัวละครให้ใกล้เคียงกับในประวัติศาสตร์อยู่ โดยเธอเป็นหนึ่งในตัวละครสำคัญของเกม Fate/EXTRA และจังหวะที่ทำให้เกิด “มีม” จนเป็นที่รู้จักจริง ๆ กำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว
ในช่วงเวลาหนึ่งของเนื้อเรื่องในเกม Nero Claudius ได้ร้องเพลง Jingle Bells หนึ่งในเพลงคริสต์มาสที่หลายคนรู้จัก แต่อยู่ในรูปแบบล้อเลียนเป็นภาษาญี่ปุ่น โดยผู้ที่ทำให้ฉากนี้เป็นที่รู้จักในครั้งแรก คือช่องยูทูปของ ugroundz1 ด้วยชื่อวิดีโอว่า Merry Christmas และมันได้รับความนิยมมากในระดับหนึ่ง เพราะสามารถทำยอดผู้เข้าชมได้มากกว่า 4 แสนครั้งในระยะเวลา 6 ปี ปัจจุบัน วิดีโอนี้มียอดเข้าขมใกล้ 2 ล้านครั้งแล้ว
และทั้งหมดที่กล่าวถึงนี้ เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น
ถูกขยี้จนโด่งดัง
หลังจากที่ “ฉากในเกม” ได้ถูกส่งต่อกันเป็นจำนวนมากในหมู่ของแฟนซีรีส์ Fate มันก็เริ่มแพร่กระจายไปอยู่ในรูปแบบต่าง ๆ เช่น มีมที่ตัดต่อโดยใช้รูปของ Nero Claudius ในชุดซานต้า ฟังเพลง Padoru พร้อมสวมหูฟัง หรือการทำให้หลอนหูยิ่งกว่าเดิม ด้วยการทำให้วิดีโอต้นฉบับที่ยาวเพียง 10 วินาที ยาวขึ้นเป็นชั่วโมงเลยทีเดียว
เมื่อชาวเน็ตสงสัย ว่า Nero Claudius ฟังอะไรอยู่
ต่อมาในช่วงปี 2018 เป็นต้นมา ก็เริ่มมีชาวเน็ตจำนวนหนึ่ง พยายามสืบค้นว่าทำไมเจ้ามีม Padoru มันถึงได้โด่งดังแบบสุด ๆ พอขึ้นชื่อว่าเป็น “มีม” มันก็อธิบายได้ยากเช่นกัน แต่ก็ยังพอสรุปได้ว่า เป็นเพราะตัวละครหลักจากเกม ดันร้องเพลงที่ติดหูไปแล้ว โดยเฉพาะคำว่า Padoru Padoru ที่จริง ๆ แล้วเป็นประโยคที่คนญี่ปุ่นพูดล้อไปกับเสียงวิ่งของกวางเรนเดียร์นั่นเอง
รวมทั้งรูปวาดของตัวละคร Nero Claudius ในช่วงนั้น ที่ไม่ใช่ภาพวาดที่มีความละเอียดเหมือนกับภาพอื่น ๆ ในเกม แฟนเกมและซีรีส์โดยตัวไปสามารถวาดตามได้ไม่ยาก หรือต้องการดัดแปลงให้เป็นตัวละครอื่น ๆ ก็ทำได้ไม่ยากเช่นกัน และนั่นก็ทำให้ผู้คนจำนวนหนึ่ง มักนำรูปวาดสไตล์ Padoru มาเปลี่ยนเป็นรูปโปรไฟล์ เมื่อใกล้ถึงเทศกาลคริสต์มาส
การที่มีมหนึ่ง ถูกลอกลายและนำไปแพร่กระจายซ้ำได้เรื่อย ๆ ก็หมายความว่ามีมนั้นจะไม่มีวันตายลงได้ง่าย ๆ โดยเฉพาะกับตัวละครสไตล์ Padoru ที่ยิ่งมีมากขึ้น ตามตัวละครจากมังงะหรืออนิเมะ หรือแม้กระทั่งวงการวีทูบเบอร์ที่มากขึ้น และในทุก ๆ ปี ในวิดีโอที่มีความเกี่ยวข้องกับ Padoru ก็จะมีผู้ใช้งานจำนวนหนึ่งมาคอมเมนต์ในเชิงที่ว่า “เวลานั้นของปีมาถึงแล้ว” ในทุกช่วงเดือนธันวาคม
ตราบใดที่ผู้คนยังคงให้ความสนใจกับเทศกาลคริสต์มาส เรื่องราวของ Padoru ก็จะยังคงถูกส่งต่อไปอีกหลายปี และไม่มีท่าทีว่าจะจบลงในเร็ว ๆ นี้แน่นอน
Source:
More from us
