Event Horizon : ต้นกำเนิดความสยองเหนือชั้นบรรยากาศ ที่ส่งต่อมายัง Dead Space และ The Callisto Protocol

โดย
Surasak Tulathiphakul Surasak Tulathiphakul
เขียนเมื่อ 2 min read
Event Horizon : ต้นกำเนิดความสยองเหนือชั้นบรรยากาศ ที่ส่งต่อมายัง Dead Space และ The Callisto Protocol

เมื่อนึกถึงเกมแนวสยองขวัญที่ออกมาในฤดูกาลนี้ The Callisto Protocol ถือว่าเป็นอีกชื่อที่น่าจับตามองไม่แพ้เกมที่ปล่อยในช่วงไล่ ๆ กันนี้เลย ถ้าไม่นับเรื่องปัญหาของตัวเกมที่ทำให้การเปิดตัววันแรกเป็นไปอย่างย่ำแย่แล้ว ก็น่าจะเรียกได้ว่าเป็นเกมที่สืบทอดจิตวิญญาณจากเกมสยองขวัญรุ่นพี่อย่าง “Dead Space” ได้เป็นอย่างดี ด้วยความที่ได้ “เกล็น สโคฟิลด์” (Glen Schofield) และทีมงานบางส่วนจาก “Visceral” ผู้ให้กำเนิดแฟรนไชส์ระดับตำนานนี้มาร่วมสร้างด้วย

โดยทั้ง The Callisto Protocol และ Dead Space ต่างก็มีจุดร่วมที่คล้าย ๆ กัน คือ “การเผชิญหน้ากับบางสิ่งที่น่าสยดสยองในพื้นที่ปิดตายกลางห้วงอวกาศอันอ้างว้าง“ และบรรยากาศที่ว่านี้ ต่างมีต้นแบบและแรงบันดาลใจจากแหล่งเดียวกัน นั่นก็คือ “Event Horizon” หนังสยองขวัญที่จุดประกายความน่าสะพรึงท่ามกลางห้วงอวกาศอันลึกลับอันยากจะคาดเดา


| ตำนานยานอวกาศ ที่ข้ามไปไกลกว่าขอบเขตของวิทยาศาสตร์

cr.https://www.popularmechanics.com/culture/tv/a28624799/event-horizon-tv-show/


“Event Horizon” ภาพยนตร์แนวสยองขวัญวิทยาศาสตร์จากปี 1997 ผลงานการกำกับโดย “พอล ดับบลิว.เอส. แอนเดอร์สัน” (Paul W. S. Anderson) เป็นเรื่องราวในโลกอนาคตปี 2047 เมื่อหน่วยกู้ภัยได้รับสัญญาณของความช่วยเหลือจาก Event Horizon ยานสำรวจอวกาศขนาดยักษ์ที่ติดตั้งเทคโนโลยีล้ำยุค ซึ่งขาดการติดต่อไปนานถึง 7 ปี และมันก็กลับมาอีกครั้งในจุดเดียวกับที่มันหายไป พร้อมกับศพเพียงร่างเดียวในยานที่ว่างเปล่า และบางสิ่งที่มันนำกลับมาด้วย

ถ้าให้ว่ากันตามจริง Event Horizon ถือเป็นหนังสยองขวัญที่ล้มเหลวหนักมากในด้านรายได้ เพราะทำเงินได้แค่ 1.4 พันล้านบาท จากงบการสร้าง 2.1 พันล้านบาท พร้อมทั้งเสียงวิจารณ์ที่อยู่ระดับกลางไปต่ำ ด้วยการเปิดเรื่องมาเป็นแนววิทยาศาสตร์อย่างเข้มข้น ก่อนจะหักมุมไปแนวลึกลับเหนือธรรมชาติแบบดื้อ ๆ แต่มันก็ได้ถูกยกให้เป็นหนัง “คัลท์คลาสสิก” ที่ถ้าไม่ชอบก็เกลียดไปเลย เพราะนี่ถือเป็นการบุกเบิกแนวทางใหม่กับการนำเสนอความน่ากลัวในแบบที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน จากการรวมความน่ากลัวในธีมไซไฟและเหนือธรรมชาติไว้ด้วยกัน


ในหนังเรื่องนี้ได้ซุกซ่อนรายละเอียดเอาไว้อย่างมากมาย ไม่ว่าจะชื่อของหนังและตัวยานต้นเรื่อง มาจากปรากฏการณ์ที่เรียกว่า “ขอบฟ้าเหตุการณ์” (Event Horizon) ใช้เรียกขอบเขตในห้วงอวกาศที่ไม่สามารถสำรวจได้ ซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับหลุมดำ ทุกอย่างที่สัมผัสจะถูกดูดหายเข้าไปตลอดกาล ไม่มีใครสามารถตอบได้ว่าจะหลุดกลับออกมาเมื่อไหร่ และมีอะไรอยู่หลังขอบเขตนั้น นั่นเลยทำให้มีที่ว่างพอเพื่อเติมแต่งจินตนาการถึงอีกฟากนั้นได้อย่างเต็มที่ อย่างในหนังเรื่องนี้จะเป็นมิติแห่งความชั่วช้าและเลวทราม ซึ่งพร้อมจะมอบความทุกข์ทรมานอย่างสาหัส ชนิดที่ว่านรกที่เรา ๆ จินตนาการไว้กลายเป็นโรงแรมห้าดาวไปเลย

อีกทั้งบรรยากาศที่ไม่ต่างจากบ้านผีสิงปิดตายหลังใหญ่ ซึ่งลอยเคว้งคว้างในห้วงอวกาศที่ไร้จุดสิ้นสุด จะไปทางไหนก็อันตรายทั้งขึ้นทั้งล่อง แถมยังมีภาพหลอนที่ปรากฏขึ้นมาให้บรรดาตัวละครได้เห็นเป็นระยะ ๆ ถือได้ว่าเป็นสภาพแวดล้อมแันสมบูรณ์แบบที่จะทำให้คนคนหนึ่งเป็นบ้าได้ง่าย ๆ


ไม่ใช่แค่นั้น ยาน Event Horizon ที่เป็นฉากหลังของเรื่อง ก็ยังแฝงความหมายไว้อย่างมากมาย อย่างโถงทางเดินไปยังห้องปั่นแรงดึงดูดที่เป็นหัวใจของยาน ที่มีหน้าตาเหมือนที่บดเนื้อ มันเป็นตัวแทนของนรกทั้ง 9 ขุมจาก “Inferno” นิยายตอนแรกของ “Divine Comedy” โดย “ดันเต อาลีกีเอรี” (Dante Alighieri) และห้องปั่นแรงดึงดูดที่ปลายทาง เปรียบได้กับตัวแทนจุดศูนย์กลางของนรก เท่านั้นยังไม่พอ ในบทหนังฉบับร่างตัวแรก ได้มีการบรรยายถึง “นรก” สถานที่ที่เชื่อว่าเป็นจุดหมายที่ยาน Event Horizon ไปถึงและกลับออกมา ซึ่งได้แรงบันดาลใจส่วนใหญ่มาจากภาพวาดแนว “Vision of Hell” ของศิลปินในยุคฟื้นฟูศิลปะวิทยาการ

| ต้นแบบความสยองแนวใหม่ของวงการเกม และความเชื่อมโยงกับแฟรนไชส์อื่น ๆ


สถานที่ปิดตายในอวกาศ, ภาพหลอน และของฝากที่ไม่พึงประสงค์ ทั้งหมดนี้เป็นสารตั้งต้นชั้นดีสำหรับเกมแนวสยองขวัญจากปี 2010 อย่าง Dead Space ที่มีกลิ่นอายเดียวกับแบบชัดเจน ทั้งเหตุการณ์บน USG Ishimura ที่ถูกส่งมาทำภารกิจลับ ก่อนจะขาดการติดต่อไปเป็นเวลานาน และส่งสัญญาณกลับมาเพื่อเรียกตัวใครสักคนให้เข้าไปหามัน ก่อนจะโยนทุกประสบการณ์อันน่ากลัวเข้ามา ไม่ว่าจะเป็นบรรยากาศอันน่าขนลุก, ฝูง Necromorph ที่พร้อมจะโผล่มาไล่ล่าสิ่งมีชีวิตทุกชนิด, ภาพลวงตาที่ส่งมาสร้างความสะพรึงแบบถึงที่, Marker ต้นตอของทุกสิ่งทุกอย่างในจักรวาล Dead Space และมีคนบ้าอีกหนึ่งรายที่พยายามปกป้องงานวิจัยที่ได้จากมันอย่างสุดชีวิต


ทั้งหมดนี้ไม่ใช่แค่การเปรียบเปรย เพราะ “เกล็น สโคฟิลด์” บอกเองกับปากว่า เขาได้ใช้ภาพยนตร์ Event Horizon เป็นแรงบันดาลใจให้กับ Dead Space ในด้านบรรยากาศและงานภาพ ร่วมกับองค์ประกอบจากหนังเรื่องอื่น ๆ อย่าง Alien กับ Solaris เพื่อให้ตัวเกม Dead Space สามารถส่งมอบประสบการณ์ความน่ากลัวได้อย่างที่ตั้งใจไว้


หลังจากที่สตูดิโอ Visceral ถูกยุบไปโดย EA เพราะเกมภาค 3 นั้นได้รับเสียงตอบรับที่ย่ำแย่ “เกล็น สโคฟิลด์” และทีมงานจาก Visceral ก็ได้มีโอกาสส่งต่อบรรยากาศความสยดสยองของ Dead Space มาไว้ใน The Callisto Protocol ผลงานเกมสยองขวัญตัวล่าสุดของ “Striking Distance Studios” ผู้พัฒนาเกมในเครือของ Krafton เจ้าของเกม Battle Royale ชื่อดังอย่าง PUBG ว่าด้วยเรื่องของการเอาตัวรอดของคนดวงกุดในคุกอวกาศ บนดวงดาวอันเปลี่ยวร้าง และเต็มไปด้วยนักโทษที่กลายเป็นสัตว์ประหลาด


และด้วยความที่กลายมาเป็น “คัลท์คลาสสิก” ทำให้มีแฟนเดนตายหลายคนคิดทฤษฎีต่าง ๆ มาเชื่อมโยงกับแฟรนไชส์อื่น ๆ อยู่ด้วย อย่างมิติที่ยาน Event Horizon และลูกเรือได้เดินทางไปถึง คือนรกที่อยู่ในจักรวาลของภาพยนตร์ Hell Raiser และลูกเรือได้ถูกพวกปีศาจ Cenobite และทรมานจนตาย ก่อนมันจะถูกส่งกลับมาด้วยเหตุผลบางอย่าง ซึ่งถือว่าเป็นทฤษฎีที่ถูกยกมาพูดถึงมาอย่างยาวนาน


อีกทฤษฎีนั้น เชื่อกันว่ามันเชื่อมโยงกับจักรวาล Warhammer 40K แฟรนไชส์เกมกระดานแนว Dark Fantasy ยอดฮิต ที่ถูกต่อยอดจนมีวิดีโอเกมอยู่มากมาย โดยความเชื่อกันว่ามิติที่ยาน Event Horizon ทะลุไปถึง คือ Immaterium หรือ The Warp มิติคู่ขนานกับจักรวาลที่มนุษย์อาศัย กระแสเวลาในมิตินี้ไหลไปไวกว่า เต็มไปด้วยพลังงานทางจิตมากมาย ที่มนุษย์จากมิติปกติไม่สามารถรับไหว ด้วยความที่ตัวยานนั้นไม่มีสนามพลังสำหรับป้องกันสิ่งเหล่านี้ ทำให้ลูกเรือได้รับผลกระทบแบบเต็ม ๆ จนคลุ้มคลั่งและฆ่ากันเอง… แต่ทฤษฎีนี้ถูกโต้แย้งด้วยหลักความเหลื่อมล้ำของเวลาระหว่างมิติ ตามเรื่องราวพื้นหลังของ Warhammer 40K ที่อธิบายว่าถ้าอิงตามเวลา 7 ปีจักรวาลปกติ Event Horizon ที่ล่องลอยอยู่ใน The Warp ขากลับออกมาควรจะไปโผล่ที่เนบิวลาแมงมุมที่ไกลออกไปราว 1 หมื่นปีแสง ไม่ใช่แถวววงโครจรของดาวเนปจูน




และนี่คือเรื่องราวของ Event Horizon ภาพยนตร์สยองขวัญคัลท์คลาสสิก ที่นำแนวคิดคนละขั้วมารวมไว้ในหนังเรื่องเดียว งอัดแน่นไปด้วยรายละเอียดอันน่าสะพรึง พร้อมทั้งเอกลักษณ์ส่งแต่ไอเดียความสยองให้กับวิดีโอเกมดังระดับตำนานอย่าง Dead Space และเกมแนว Sci-fi Horror ในห้วงอวกาศรุ่นหลัง และเชื่อได้ว่าแนวคิดสุดพิสดารนี้ ยังสามารถต่อยอดออกไปได้ไกลกว่านี้อย่างแน่นอน

แหล่งที่มา

[HC17] เปิดประวัติ Event Horizon ยานนรกสุดขอบฟ้า - YouTube

ประวัติ Event Horizon และทฤษฎีจักรวาล Warhammer 40k | The Codex - YouTube

The best space thriller on Netflix reveals a real lunar mystery (inverse.com)

The Dead Space universe is clearly taken from the film "Event Horizon".(spoiler) - Dead Space (gamespot.com)

Dead Space Part #14 - Horror Movie Influences for Dead Space (lparchive.org)

More from us

นักเขียน, Gamer และตากล้อง ชอบดื่มเบียร์ IPA และ Whisky... เคยหายไปเขียนเรื่องเหล้ามาหลายปี ในที่สุดก็ได้กลับเข้าวงการสักที..!!!!
รักหมารักแมวรักการเล่นเกม!