คุยหลังดราม่า จริง ๆ แล้ว “วงการตากล้องคอสเพลย์” ต้อนรับคนนอกขนาดไหน?

โดย
Surasak Tulathiphakul Surasak Tulathiphakul
เขียนเมื่อ 1 min read
คุยหลังดราม่า จริง ๆ แล้ว “วงการตากล้องคอสเพลย์” ต้อนรับคนนอกขนาดไหน?
ภาพประกอบจาก : https://japan-forward.com/cosplay-features-in-full-swing-at-tokyo-game-show-2023/

งาน “PHOTO FAIR 2023” ที่เพิ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 9 - 12 พฤศจิกายน ถือเป็นงานปีที่ 2 ที่มีการนำการถ่ายภาพคอสเพลย์เป็นส่วนหนึ่งของคอนเทนต์ในงาน ไม่ว่าจะเป็นกิจกรรม Cosplay Parade หรือลานคอสเพลย์เล็ก ๆ ด้วยความที่วงการตากล้องคอสเพลย์เอง ก็เป็นหนึ่งในลูกค้าหลักของสินค้าจำพวกกล้อง, เลนส์ และไฟต่าง ๆ

แต่มีผู้คร่ำหวอดในวงการอีเวนต์และงานคอสเพลย์เคยกล่าวไว้ว่า “คอสเพลย์ที่ไม่มีดราม่า ไม่ใช่คอสเพลย์” งานนี้ก็มิวายมีดราม่าเหมือนกัน แต่เป็นดราม่าในฝั่งตากล้อง และคราวนี้ก็เป็นประเด็นดราม่าไปถึงนอกชุมชนคอสเพลย์ ว่าด้วย “มารยาทพื้นฐานในการถ่ายภาพ” และท่าทีที่แสดงออกมาสู่สายตาของบุคคลภายนอก ที่ดูออกจะรุนแรงและไม่เป็นมิตรสักเท่าไหร่


จุดประเด็นดราม่า

เหตุเกิดจากมีตากล้องคอสเพลย์รายหนึ่ง ได้เล่าเหตุการณ์ที่ตนได้เข้าไปชาร์จตากล้องรายหนึ่งในงาน เพราะเห็นว่าใช้เลนส์ระยะไกลถ่ายนักคอสเพลย์รายหนึ่ง ในขณะที่ตากล้องส่วนหนึ่งกำลังตั้งวงถ่ายนักคอสเพลย์รายหนึ่งอยู่ และสั่งให้ลบรูปถ่ายนั้น โดยเข้าใจว่ากำลังแอบถ่ายนักคอสเพลย์ โดยตากล้องรายดังกล่าวนั้นได้ระบุในโพสต์ว่า “ไม่ขอโทษครับและคิดว่ามันน้อยไป” และได้เสริมอีกว่า “หัดพกมารยาทออกจากบ้านมาด้วยครับ” พร้อมทั้งยกเรื่องของมารยาทในการถ่ายคอสเพลย์ ที่ว่าด้วยการขออนุญาตก่อนถ่าย ซึ่งเป็นกติกาสามัญที่ทุกงานระบุไว้เป็นพื้นฐาน

แต่สิ่งที่ทำให้โพสต์และเหตุการณ์ดังกล่าวเป็นดราม่า คือการใช้ภาษาที่รุนแรงเกินความจำเป็น จนทำให้บุคคลภายนอกวงการคอสได้เข้ามาแสดงความคิดเห็นถึงคนฝั่งชุมชนคอสเพลย์ในทำนองไม่เห็นด้วย, เรื่องมาก และบางรายได้บอกว่า “ไม่อยากให้ถ่ายทำป้ายมาครับ หรือก็ไม่ต้องออกงานสาธารณะ คนไปงานเค้าไม่รู้หรอกว่าห้ามถ่าย ตลกดีหวงตัวแต่ไปออกงาน” จากการที่กิจกรรมคอสเพลย์ดังกล่าวนั้น อยู่ในงาน PHOTO FAIR ซึ่งเป็นงานเปิด มันเป็นไปไม่ได้ที่จะบังคับใครไม่ให้ถ่าย เพราะในงานนี้ก็มักจะมีตากล้องบางรายหาโอกาสลองกล้องและเลนส์อยู่แล้ว และไม่ใช่ทุกคนที่รู้ว่าการถ่ายนักคอสเพลย์ต้องขอก่อน

ในขณะเดียวกัน ก็มีฝั่งที่เห็นด้วยกับสิ่งที่เกิดขึ้นและโพสต์ดังกล่าว เนื่องจากการถูกแอบถ่ายในจุดที่ไม่พึงประสงค์ และการคุกคามในรูปแบบต่าง ๆ เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจริง และเป็นปัญหาที่นักคอสเพลย์พบเจออยู่บ่อย ๆ ไม่ว่าจะอยู่ในงานแบบเปิด หรืองานที่ต้องเสียเงินค่าเข้า

จากสิ่งที่เกิดนี้ ส่งผลให้ชุมชนคอสเพลย์ และตากล้องคอสเพลย์ ถูกมองว่าไม่เป็นที่ต้อนรับบุคคลภายนอกไปกลาย ๆ ถึงแม้ใน Live Stream ของเพจ “คุยกันใหญ่” จะได้เชิญตากล้องรายดังกล่าวมาอธิบายดราม่าที่เกิดขึ้น จะบอกว่าทำไปเพื่อปกป้องนักคอสเพลย์ ปกป้องวงการ และเป็นห่วงทุกคน แต่ในสายตาของ “ตากล้องคอสเพลย์” ส่วนหนึ่งนั้น กลับไม่ได้มองว่านี่เป็นความห่วงใย แต่มันกลับสร้างผลเสียให้กับวงการคอสเพลย์ในสายตาคนนอกวงการ จนถูกมองว่าเป็นวงการที่ไม่ต้อนรับคนนอกมากกว่า ซึ่งขัดกับสิ่งที่คนในวงการคอสเพลย์พยายามสื่อสารมาตลอดว่าอยากได้การสนับสนุนจากบุคคลภายนอก

ตากล้องคอสฯ คนดัง ล้อมวงคุย

ในวันถัดมา “คุณไบร์ท” จากช่อง “Asayhi Channel” ก็ได้จัดการ Live Stream ขึ้นเพื่อพูดถึงประเด็นเดิม แต่คราวนี้ได้มีการเชิญตากล้องคอสเพลย์ระดับแนวหน้าของวงการอย่าง “น้าเรย์” จากเพจ “Ayanami「レイ」”, “น้าแพง” จาก “Pang_0320” และ “พี่แก๊บ” หรือที่วงการคอสเพลย์รู้จักในชื่อของ “ตาเฉย” รวมถึงตัวแทนจากร้าน Zoomcamera อย่าง “คุณท็อป” และ “คุณกาญ” เข้ามาร่วมพูดคุยในประเด็นดราม่าที่เกิดขึ้น

ในส่วนของดราม่าที่เกิดขึ้น “พี่แก๊บ” ได้ระบุว่ามันอาจจะเป็นเพียงการสื่อสารที่ผิดพลาด ของตากล้องคอสเพลย์รายดังกล่าว กับ “น้า” (สรรพนามในวงการ ใช้เรียกตากล้องด้วยกัน) ที่ยืนซูมถ่ายจากที่ไกล ๆ และมีการใช้อารมณ์และเสียงที่ดัง ฝั่งน้าก็รู้สึกไม่อยากทำตามที่อีกฝ่ายสั่ง ทำให้เกิดการขัดแย้งขึ้น จนเกิดเป็นโพสต์ที่มีความรู้สึกรุนแรงขึ้นมา จนคนแวดวงตากล้องอื่นมองว่าวงการคอสเพลย์นั้นดูรุนแรง ชนิดที่ว่าถ้าไม่ได้รับความยินยอมให้ถ่าย จะถูกตามไปสั่งให้ลบรูปอย่างนั้นหรือ? และการเขียนไว้ในโพสต์ว่าเป็นการ “ด่า” ก็ทำให้ข้อความนั้นดูรุนแรงกว่าปกติ… และด้วยความที่ PHOTO FAIR เป็นงานกล้อง ที่มีการประกวดการถ่ายภาพในงาน จึงเป็นปกติอยู่แล้วที่จะมีคนหยิบกล้องขึ้นมาถ่ายตามปกติ หรือหยิบกล้องหรือเลนส์มาลองอยู่แล้ว ซึ่งพี่แก๊บมองว่าเพราะเป็นงานกล้อง คนทั่วไปสามารถเอนจอยกับการถ่ายรูปได้โดยไม่มีปัญหา

คำถามสำคัญที่ถูกยกขึ้นมาถามในดราม่าครั้งนี้ อย่าง “ถ้าจะถ่ายนักคอสเพลย์ต้องขอก่อนมั้ย?” ทาง “คุณกาญ” ได้อธิบายว่าในงานคอสเพลย์ นักคอสเพลย์ไม่ได้เป็นนางแบบอาชีพทุกคน เช่นเดียวกับ “พี่แก๊บ” ที่เสริมว่า นักคอสเพลย์ในงานจะมีอยู่หลายช่วงวัย ซึ่งส่วนหนึ่งนั้นเป็นผู้เยาว์ ทำให้มารยาทในการถ่ายรูป จึงเป็นสิ่งสำคัญที่ทุกคนควรเข้าใจ ถ้าอยากถ่ายจริง ๆ แล้วขอเขาก่อนก็ไม่มีปัญหา ถ้าไม่สะดวกก็ไม่ว่ากัน ถ้าให้เปรียบเทียบระหว่างคนที่ยกกล้องถ่ายเลย กับคนที่เดินไปขอถ่ายก่อน คนที่จะดูดีกว่า ก็คือคนที่มาขอถ่ายก่อน ซึ่งมันจะไม่ดูคุกคาม โดยเฉพาะกับนักคอสเพลย์ที่เป็นเด็ก

ทางด้านของ “น้าเรย์” ได้อธิบายว่ามันจะมีธรรมเนียมที่ทำกัน แต่ไม่แน่ใจว่าส่วนใหญ่ทำกันหรือไม่ คือการเอารูปหลังกล้องให้ดูก่อน เพื่อให้ตัวเลเยอร์ตรวจสอบตัวเอง ว่าชุดหรือพร็อพเรียบร้อยหรืออยู่อย่างถูกต้องหรือไม่? ด้วยความที่ชุด “คอสเพลย์” มันจะมีตำแหน่งและรายละเอียดมากกว่าชุดลำลอง หรือชุดสวยงามที่พริตตี้สวมใส่ และมุมที่ตากล้องถ่ายมานั้นโอเคหรือเปล่า? ซึ่งน้าเรย์มองว่าจุดประสงค์ของการเดินงานของคอสนักคอสเพลย์ คือทุกคนต้องอยากได้รูปกลับบ้าน และเป็นรูปที่รู้สึกว่าโอเคที่สุด

นอกจากนี้ “น้าเรย์” ยังได้เสริมอีกในประเด็นที่มาคนยกมาถามในดราม่า “แต่งคอสเพลย์มางาน แล้วไม่พร้อมจริง ๆ เหรอ?” ในส่วนที่เป็นงานคอสเพลย์แบบเปิดสาธารณะ บางทีตัวนักคอสเพลย์จะเพิ่งเดินทางมาถึง อาจจะยังไม่ได้มีการติดพร็อพ หรือแต่งองค์ทรงเครื่องตามตัวละคร ไม่ก็กำลังรีบไปหาเพื่อนหรือผู้ปกครองอยู่ และตามที่ได้ระบุในข้างต้นว่า นักคอสเพลย์อยากได้รูปที่ดูดีที่สุดกลับบ้าน ซึ่งถ้าถ่ายทั้งที่ยังไม่พร้อม รูปที่ได้ก็จะไม่ได้ดูดีอย่างที่พวกเขาต้องการ ในขณะที่พริตตี้ตามงานมอเตอร์โชว์ หรืออีเวนต์ใด ๆ อันนี้จะเป็นอาชีพที่ถูกจ้างมาให้ถ่ายอยู่แล้ว ซึ่งจะมีวิธีเซฟตัวเองและทำให้พร้อมที่จะถูกถ่ายตลอดชั่วโมงการทำงาน

ภาพการล้อมวงถ่าย หรือที่เรียกว่า "วงบอส" ของ "Enako" จากงาน Comic Market 97 / ที่มาภาพ : https://sea.mashable.com/culture/8343/this-japanese-cosplayer-is-so-popular-she-has-a-phenomenon-named-after-her

มาถึงคำถามสำคัญของดราม่า ที่เป็นส่วนที่น่าจะมีคนอยากได้คำตอบมากที่สุด นั่นคือ “คอสเพลย์ตามงาน มันถ่ายได้มั้ย?” โดย “คุณไบร์ท” ได้สมมุติว่าไม่ได้อินกับการถ่ายคอสเพลยื แต่อยากมาร่วมแจมงานนั้น ๆ โดยที่ไม่รู้จักใคร จะเข้าไปขอก็คนรุมเยอะจะซูมถ่ายก็กลัวดราม่า ซึ่งคำตอบจากตากล้องในวงการคอสเพลย์โดยสรุปรวมแล้วก็คือ “มันถ่ายได้”

โดย “พี่แก๊บ” ได้กล่าวว่า ถ้าไม่รู้จักใคร ก็เข้าไปถ่ายกับเขาได้ จริง ๆ มันง่ายมาก แค่เดินไปบอกว่า “ขอถ่ายรูปหน่อยได้มั้ยครับ?” แค่นี้… ไม่มีอะไรเลย แต่ถ้าเขิน ไม่กล้าเข้าไปคุย แต่อยากถ่ายอยู่ห่าง ๆ “พี่แก๊บ” ก็แนะนำว่า ให้ไปแจมกับคนที่ตั้งวงถ่ายกันเยอะ ๆ แต่ก็มีสิทธิ์ที่จะโดนมาเช็กรูปเหมือนกัน เพราะตัวนักคอสเพลย์ไม่รู้เจตนาว่ากำลังทำอะไรอยู่ ณ ตอนนั้น จากระยะนั้น… ถ้าไม่กล้าขอถ่ายรูปใคร แต่มีเพื่อนมาด้วยหรือรู้จักใคร ก็สามารถไหว้วานเพื่อนไปขอถ่ายให้ได้เหมือนกัน… นอกจากนี้ ”พี่แก๊บ” ได้เสริมอีกว่า จริง ๆ ทุกอย่างมีทางออก ถ้าเรา “คิด” และ “คุยกันดี ๆ”

ส่วนในกรณีที่ถ่ายไกล ๆ แล้วนักคอสเพลย์ไม่ได้ว่าอะไร แต่เป็นฝ่ายตากล้องอีกกลุ่มแสดงตัวออกมาปกป้องด้วยการขอตรวจสอบและขอให้ลบรูปดังกล่าว “คุณกาญ” ได้ชี้ให้เห็นว่า ปัญหาตรงนี้อยู่ที่ช่างภาพแล้ว เพราะมันไม่ได้มีหน้าที่อันสมควรอะไรจะไปออกตัวแทน จะออกไปในทางคุกคามนิดหน่อย ตามที่ “คุณท็อป” ได้แสดงความเห็นเสริม

วงการนี้ จริง ๆ มันก็ Nice นะ

มีการเพิ่มเติมจาก “คุณกาญ” อีกว่า ช่างภาพที่มาในงานคอสเพลย์ ก็ไม่ต่างจากนักคอสเพลย์ นั่นคือทุกคนเป็นงานอดิเรกเหมือนกัน ตีไปได้ราว 80% มีความชอบเหมือนกัน เข้าไปคุยกันได้ ไม่จำเป็นต้องไปรุนแรงใส่กัน เช่นเดียวกับ “พี่แก๊บ” ที่เข้ามาเสริมว่า “ทุกอย่างมันจบได้ ถ้าทุกอย่างคุยกันดี ๆ ครับ”... นอกจากนี้ “น้าแพง” ได้สมทบอีกว่า ช่างภาพร้อยละ 95-99 ค่อนข้าง Nice มาก ๆ ต่อให้เป็นมือใหม่เข้าไปถ่าย ส่วนใหญ่จะแนะนำดีมาก ๆ เช่นการตั้งค่ากล้องให้ถ่ายได้อย่างที่ต้องการ

ซึ่งทาง “น้าเรย์” ได้แสดงมุมมองส่วนตัว โดยอ้างอิงถึงคำพูดของ “น้าแพง” ในไลฟ์เดียวกัน คือ “วงการตากล้อง” ส่วนใหญ่เกิดจากคนที่มี “Serious Hobby” (งานอดิเรกจริงจัง) หลาย ๆ คนมารวมกัน ด้วยความที่โลกภายนอกมันโหดร้าย เราก็แค่อยากจะมาสนุกกับงานอดิเรกของเรา แน่นอนว่าทุกคนก็จะ Nice ต่อกัน ซึ่งถ้าเกิดประเด็นหรือปัญหาจริง ๆ ส่วนใหญ่เลือกที่จะคุยกันมากกว่า

วงการตากล้องคอสเพลย์ จริง ๆ แล้วดูรุนแรงจริงหรือ?

ถ้าจะให้สรุปรวมว่าวงการ “ตากล้องคอสเพลย์” นั้นดูรุนแรงและปิดกั้น ไม่ต้อนรับคนนอกจริง ๆ หรือ? ถ้าอ้างอิงจากมุมมองของตากล้องคอสเพลย์รุ่นใหญ่นั้น มันก็เป็นวงการที่เปิดประตูต้อนรับอยู่แล้ว ถ้าต้องการคำแนะนำ ทุกคนก็พร้อมจะช่วย ถ้าขี้อายเกินกว่าจะเปิด ก็แค่ให้เพื่อนเปิดให้ ไม่ก็ไหลตามเขาไป

แต่ในส่วนปัญหาที่เกิดขึ้นนั้น ก็เป็นเพียงการแสดงออกของคนส่วนหนึ่งเท่านั้น ที่รู้สึกหัวร้อนและมีอารมณ์ต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และได้ถ่ายทอดออกมาด้วยถ้อยคำที่รุนแรง แม้จะทางเจ้าของโพสต์รายดังกล่าวจะมีการแก้ไขข้อความและเพิ่มเติมเนื้อหา พร้อมทั้งนำรูปประกอบที่เป็นภาพระหว่างการถ่ายน้องนักคอสเพลย์รายหนึ่งออกไปเพื่อป้องกันความเข้าใจผิดแล้วก็ตาม แต่นั่นก็ทำให้มีบุคคลภายนอกวงการ เกิดมุมมองที่ไม่ดีต่อวงการคอสเพลยืไปแล้ว

และอย่างที่ “พี่แก๊บ” ได้พูดไปใน Live Stream การคิดและพูดคุยกันดี ๆ สามารถแก้ได้ทุกปัญหา และเหตุการณ์นี้แสดงให้เห็นว่า การสื่อสารจากภายในสู่สายตาคนนอกวงการ มีความสำคัญมากในการกำหนดภาพลักษณ์ของวงการนั้นจริง ๆ


เนื้อหาน่าสนใจที่เกี่ยวข้อง

คอสเพลย์สำหรับผู้ใหญ่ ผิดที่ “โป๊” หรือผิดที่เป็น “คอสเพลย์” ?
“Cosplay is Not Consent” ความพยายามของชาวคอสเพลย์ เพื่อให้งานคอสฯ เป็นเซฟโซน

More from us

นักเขียน, Gamer และตากล้อง ชอบดื่มเบียร์ IPA และ Whisky... เคยหายไปเขียนเรื่องเหล้ามาหลายปี ในที่สุดก็ได้กลับเข้าวงการสักที..!!!!
ศิลปินแดนใต้ผู้รักในการเล่นเกมและการถ่ายคอสเพลย์