Charlize Theron กำลังกลายเป็นกระดังงาลนไฟแห่ง Hollywood ด้วยความงดงามดุจภาพวาดของเธอ ที่ไม่ว่าจะมาในลุคไหนก็ยังดูแจ่มจ้นไปเสียหมดทุกท่วงท่าการยักย้ายถ่ายเท บวกกับฝีมือการแสดงที่ไม่เคยตก เธอสามารถรับบทบาทเป็นคนที่สวยที่สุด ไปจนถึงน่าเกลียดที่สุดได้ในคนๆเดียวกัน และที่น่าทึ่งไปกว่านั้นคือ เธอสามารถเล่นบทแอ็คชั่นได้ทรงพลังพอๆกับบททางดราม่า นี่จึงเป็นสาเหตุที่ตัวเธอนับวันยิ่งมีมูลค่าโดยที่ค่าตัวไม่ตกลงไปสักเท่าไหร่เมื่อเทียบกับสมัยสาวๆ
ที่มาภาพ : https://www.samaaenglish.tv/news/40035120/lifestyle-charlize-theron-stuns-in-a-daring-gothic-dress-at-fast-x-premiere
แต่ใครจะรู้บ้างว่า สาวผมบลอนด์ตาคมคนนี้เธอเป็นคนแอฟริกาใต้ และเติบโตมาในครอบครัวที่แตกร้าวดั่งนรกอเวจีขุมลึกสุด เมื่อพ่อแท้ๆของเธอเป็นไอ้สวะขี้เมาที่พอเหล้าเข้าปาก มันก็พร้อมจะระรานลูกเมียทั้งทางกายและจิตใจ
Charlize Theron เกิดและเติบโตมาในฟาร์มเมืองเบโนนี โจฮันเนสเบิร์ก แอฟริกาใต้ เธอมีเชื้อสายดัตช์,ฝรั่งเศส และ เยอรมัน ในวัยเด็กนั้นเธอป่วยด้วยโรคดีซ่าน จนต้องพึ่งยาปฏิชีวนะ ทำให้ฟันน้ำนมซี่บนของเธอผุเน่าจนต้องผ่าตัดเอาฟันออก และฟันของเธอไม่งอกจนกระทั่งเธออายุได้ 10 ขวบ ฟันจึงขึ้นพร้อมฉายแววความสวย
ที่มาภาพ : https://medium.com/the-crime-center/celebrity-parent-murders-the-tragic-death-of-charlize-therons-father-f3954fd3ea
แต่ Charles พ่อของเธอเป็นช่างก่อสร้างถนนที่เข้าขั้นไอ้ขี้เมาหยำเป และเขามักใช้กำลังกับ Gerda แม่ของเธอ จนวันหนึ่งพ่อแท้ๆของเธอพยายามที่จะข่มขืนเธอ นั่นเป็นเหตุให้แม่ต้องยิงพ่อของเธอจนตายเพื่อปกป้องลูกสาว เธอทั้งคู่หลุดพ้นจากขุมนรกนั้น และศาลตัดสินว่าแม่ของเธอป้องกันตัว จากการที่มีพยานรู้เห็นมาตลอดว่าเขามักทำร้ายร่างกายลูกและเมีย ที่เธอตัดสินใจแย่งปืนมายิงก็เพราะว่าเขาจะยิงลูกและเมีย จนทำให้เธอต้องสู้สุดกำลัง นั่นคือสาเหตุที่ทำให้ Charlize Theron เป็นแถวหน้าในวงการที่มักจะลุกขึ้นมาเรียกร้องสิทธิสตรี ในช่วงเข้าวงการแรกๆนั้นเธอตอบสื่อแค่ว่าเป็นลูกคนเดียว แต่ในเวลาต่อมาเธอสารภาพตามตรงว่าแม่ยิงพ่อตายเพราะเขาจะทำร้ายเธอกับแม่
ที่มาภาพ : https://www.elle.com/culture/celebrities/g43008602/charlize-theron-life-in-photos/
Charlize Theron มีความฝันในวัยเด็กว่าอยากเป็นนักเต้นบัลเล่ต์ ทว่าเธอประสบปัญหาบาดเจ็บที่ขาจนไม่สามารถเดินตามฝันได้ ในวัย 16 ปี เธอกับแม่มุ่งสู่มิลานประเทศอิตาลี เพราะเธอได้สัญญาเป็นนางแบบกับบริษัทหนึ่ง ใช้เวลาในอิตาลีหนึ่งปีเธอกับคุณแม่จึงตัดสินใจย้ายไปที่อเมริกา เธอเดินสายในวงการนางแบบอยู่พักใหญ่ๆ และถึงขนาดเคยถ่ายแบบนู้ดกับนิตยสาร Playboy ในฉบับเดือนพฤษภาคม 1999
ที่มาภาพ : https://www.amazon.de/-/en/Hugh-Hefner/dp/B00S3SMCWA?dplnkId=fe97bd1d-b4c6-4668-93b0-ed6611798a62&nodl=1#immersive-view_1684810631252
เมื่ออายุ 18 เธอก็แยกตัวจากแม่ไปอยู่ลอสแอนเจลิสเพื่อเป็นตามความฝันในการเป็นนักแสดง แต่อุปสรรคทางด้านภาษาของเธอนั้นใหญ่หลวงนัก การไปออดิชั่นบทหนังของเธอในครั้งแรกๆไม่ได้ราบรื่นสักเท่าไหร่ เพราะเธอพูดภาษาแอฟริคานส์ ซึ่งเป็นภาษาถิ่นของชาวดัตช์ แม้ว่าเธอจะเรียนรู้ภาษาอังกฤษมาโดยตลอด แต่ก็ยังติดสำเนียงแอฟริคานส์อยู่ดี นั่นทำให้เธอตั้งใจเริ่มฝึกฝนสำเนียงอเมริกันจนสามารถพูดได้คล่อง แต่มันก็ไม่ง่ายเลยเพราะฝีมือการแสดงของเธอเข้าขั้นห่วยบรรลัย
ที่มาภาพ : https://www.elle.com/culture/celebrities/g43008602/charlize-theron-life-in-photos/
เมื่อเงินทองของเธอเริ่มร่อยหรอ เธอจึงพยายามใช้ความสามารถในการเต้นบัลเล่ต์ของเธออีกครั้งในการหาเงิน แต่อาการบาดเจ็บไม่ดีขึ้นเลย แถมยังถูกเบี้ยวค่าตัวในการถ่ายและเดินแบบอีก จนเธอจำเป็นต้องขอหยิบยืมเงินจากคุณแม่ และการนำเช็คไปขึ้นเงินที่ธนาคารบนถนนฮอลลีวูดบูเลอวาร์ดในวันนั้นก็ทำให้ชีวิตของสาว Charlize Theron เปลี่ยนไปตลอดกาล เหตุเพราะเช็คที่เธอนำไปขึ้นเงินนั้นพนักงานธนาคารไม่สามารถดำเนินการให้เธอได้เพราะเป็นการขึ้นเช็คนอกรัฐ ด้วยความบันดาลโทสะ ทำให้ Charlize Theron ด่ากราดพนักงานธนาคาร จนทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์นั้นหันมามอง หนึ่งในผู้คนเหล่านั้นคือ John Crosby แมวมองนักปั้นจากบริษัทเอเยนซี่ดัง เขาเตะตากับความสวยและเกรี้ยวกราดของเธอมาก John Crosby ไม่รีรอที่จะเดินเข้าไปแนะนำตัวกับเธอแล้วชวนเธอเข้าสังกัดทันที (ตราบจนทุกวันนี้ John Crosby ยังคงเป็นตัวแทนและที่ปรึกษาข้างกายเธออยู่)
ที่มาภาพ : https://m.imdb.com/title/tt0115438/mediaviewer/rm4218205185
ในปี 1995 เธอออดิชั่นได้แสดงหนังครั้งแรกคือหนังสยองขวัญภาคต่อเรื่อง Children of the Corn III: Urban Harvest เธอไม่ได้พูดแม้แต่ประโยคเดียวในหนัง แต่ในปีต่อมาเธอได้แสดงหนังที่มีบทพูดครั้งแรกคือ 2 Days in the Valley บทบาทของเธอได้รับคำชื่นชม ทว่าเธอกลับไม่พอใจมันมากนัก เพราะเมื่อเธอไปออดิชั่นบทบาทในหนังเรื่องอื่นๆคนคัดเลือกมักให้เธอแสดงบทจาก 2 Days in the Valley ซ้ำๆจนเธอกลัวว่าคนดูจะติดภาพจำ เธอเชื่อในศักยภาพของเธอว่าสามารถรับบทบาทได้หลากหลายกว่านั้น จึงปฏิเสธบทแนวๆเดิมไปทั้งหมด แล้วเดินหน้าแคสหนังที่หลากหลายขึ้น
ที่มาภาพ : https://whatculture.com/film/20-things-you-didnt-know-about-charlize-theron?page=4
ในช่วงเวลานั้นเธอได้มีโอกาสออดิชั่นบทหนังที่ต้องโชว์เนื้อหนังอย่างเรื่อง Showgirls แม้ว่าเธอจะไม่ได้บทในหนัง แต่ก็ได้รู้จักกับ J. J. Harris เอเยนซี่ที่มองเห็นแววในตัวเธอ เขาแนะนำและเริ่มหางานให้เธอจนได้บทในหนังฟอร์มดีอย่าง The Devil's Advocate (1997) ประกบดาราดังอย่าง Keanu Reeves และ Al Pacino นั่นทำให้โลกเริ่มรู้จัก Charlize Theron แต่ยังไม่ค่อยมีใครทราบว่าเธอคือคนแอฟริกา
ที่มาภาพ : https://www.briantimoneyacting.co.uk/definitely-the-devils-favourite-sin
เส้นทางอาชีพนักแสดงของเธอเริ่มด้วยการมีบทวาบหวิว แต่เธอก็จำเป็นต้องทำเพื่อผลักดันตัวเองไปสู่บทบาทที่ดีกว่าเดิม และมันก็ได้ผลอย่างดีเยี่ยม เพราะเธอเริ่มมีผลงานฟอร์มดีขึ้นเรื่อยๆ แม้ว่าหนังฟอร์มดีอย่าง Mighty Joe Young(1998) ที่เธอนำแสดงจะไม่ประสบความสำเร็จ แต่บทบาทของเธอใน The Cider House Rules (1999) ก็ทำให้เธอเริ่มโด่งดังจนได้ขึ้นปกนิตยสาร Vanity Fair เป็นการการันตีว่าเธอคือนางเอกอนาคตไกลใน Hollywood แล้ว แต่จากความโด่งดังของเธอนี้ ก็มีเรื่องที่มาทำให้เธอสะดุด เมื่อนิตยสาร Playboy ขุดภาพของเธอกลับมาขึ้นปกอีกครั้งในฉบับเดือนพฤษภาคม 1999 ทำให้เธอเดินหน้าฟ้องนิตยสารดัง แต่ไม่เป็นผล เพราะเธอได้เซ็นยินยอมให้เผยแพร่ไปแล้ว นั่นทำให้เธอมีภาพจำในความเป็นดาราขายเซ็กซี่
ที่มาภาพ : https://flixboss.co.uk/movie/the-cider-house-rules-60000410
แต่เพราะความงดงามและฝีมือ การถูกขุดภาพเก่ามากลับส่งผลให้เธอยิ่งดังขึ้นไปอีกหลายเท่าตัว มีผลงานอันหลากหลายเริ่มดาหน้าเข้ามาในชีวิตเธอ ไม่ว่าจะเป็น Reindeer Games (2000), The Yards (2000), The Legend of Bagger Vance (2000), Men of Honor (2000), Sweet November (2001) The Curse of the Jade Scorpion (2001) และ Trapped (2002) แม้ว่าหนังเหล่านี้อาจไม่เปรี้ยงปร้างเท่าไหร่นัก แต่ก็ทำให้ Charlize Theron กลายเป็นดาราหญิงแถวหน้าที่มีผลงานสม่ำเสมอมาตลอด ซึ่งก็ยังมีคนติดภาพความเซ็กซี่ของเธออยู่ดี
ที่มาภาพ : https://www.imdb.com/title/tt0317740/mediaviewer/rm3279670272?ref_=ttmi_mi_all_sf_11
จนกระทั่งในปี 2003 ถือเป็นปีทองของเธอโดยแท้จริง เพราะเธอมีหนังแอ็คชั่นฟอร์มดีอย่าง The Italian Job กับหนังระดับรางวัลอย่าง Monster เข้าฉายปีเดียวกับ บทในเรื่องแรกเธอสวยสะพรั่งราวกับภาพวาด แต่สำหรับเรื่องหลังนั้นถือเป็นการพลิกบทบาทจากหน้ามือเป็นหลังเท้าคนข้างบ้าน เพราะเธอลงทุนเปลี่ยนแปลงตัวเองให้หลุดจากความเซ็กซี่ เธอเพิ่มน้ำหนักให้อ้วนและทำตัวโทรมจนคนรอบกายจำแทบไม่ได้ และจากการยอมเปลี่ยนตัวเองครั้งนั้นทำให้เธอคว้า Oscar มาได้สำเร็จ ในตอนขึ้นรับรางวัล แม้ว่าเธอจะลดหุ่นกลับมาเป็นคนสวยแบบเดิมแล้ว แต่เธอยังให้ช่างแต่งหน้ากันคิ้วให้เธอจนบางเฉียบ เพื่อให้คนในงานและทั่วโลกนึกถึงตัวละคร Aileen "Lee" Wuornos ของเธอใน Monster
ที่มาภาพ : https://thailand.fansshare.com/gallery/photos/12822865/charlize-theron-monster-movie/?displaying
หลังจากนั้นเป็นต้นมา Charlize Theron ก็ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นดาราที่มีผลงานทั้งในเชิงพาณิชย์ และเป็นดาราเจ้าบทบาทในทางดราม่า ควบคู่กันไป ผลงานในยุคหลังๆอย่าง Young Adult และ Tully ที่เธอไว้ลายฝีมือจนนักวิจารณ์ยกนิ้วให้ถึงความเก๋า รวมไปจนถึงหนังแอ็คชั่นอย่าง Atomic Blonde และ Mad Max: Fury Road เธอก็สามารถสวมบทบาทได้อย่างไร้ที่ติ จนกระทั่งได้เข้าสู่จักรวาลครอบครัว Fast & Furious ในบท Cipher นางร้ายผู้จ้องทำลายครอบครัวของ Dominic "Dom" Toretto ให้มอดไหม้ ซึ่งด้วยบทบาทสวยเฉียบของเธอ ทำให้ผู้สร้างตัดบทให้เธอตายไม่ลง ต้องมีเธอเพื่อดึงดูดคนดูไปอีกหลายๆภาคอีกด้วย
ที่มาภาพ : https://sports.yahoo.com/audrey-hepburn-gwyneth-paltrow-most-160833853.html
เมื่อมองย้อนกลับไปในวันที่เธอพบเจออุปสรรคไม่ว่าจะเป็นเรื่องครอบครัว หรือเรื่องในวงการบันเทิง นั่นทำให้เธอจำเป็นต้องยืนหยัดเคียงข้างผู้เรียกร้องสิทธิสตรี เธอคือหญิงแอฟริกาที่ Nelson Mandela มหาบุรุษแห่งแอฟริกาภาคภูมิใจ และมีโอกาสได้เข้าพบ Nelson Mandela อยู่บ่อยครั้ง เธอมีมูลนิธิเพื่อเด็กยากไร้ในแอฟริกา และเป็นผู้สนับสนุนการต่อต้านโรคเอดส์ในแอฟริกาอีกด้วย
ที่มาภาพ : https://twitter.com/charlizeafrica/status/725390458369789953?s=46&t=Cedm-UOE7KbFbetZKfdMFw
แม้ทุกวันนี้ Charlize Theron จะได้แปลงสัญชาติเป็นพลเมืองของสหรัฐอเมริกาแล้ว แต่เธอยังคงถือสัญชาติแอฟริกาใต้อยู่ เพราะเธอค่อนข้างภาคภูมิใจในความเป็นคนแอฟริกาใต้ของเธอ
เนื้อหาน่าสนใจที่เกี่ยวข้องSung Kang คือตัวจริงเรื่องรถซิ่ง ที่ไม่ใช่แค่บทบาทในหนังครอบครัวอย่าง Fast Oreo สุดยอดแร็คคูนตัวจริงที่เป็นแม่แบบให้ Rocket Raccoon David Fincher ชายผู้ห้าม Robert Downey Jr. ไปฉี่
More from us
เราจะจับทุกอย่างสิ่งมารีวิวว่ามันร้ายกาจขนาดไหน
รักหมารักแมวรักการเล่นเกม!