
เมื่อพูดถึงตัวละครของฝั่ง DC Comics ที่มาแรงที่สุดในปี 2022 “Black Adam” ย่อมครองตำแหน่งนั้นไปอย่างไม่ต้องสงสัย ทั้งจากภาพยนตร์ในชื่อเดียวกัน หรือเรื่องราวของแอนตี้ฮีโร่รายนี้ที่ออกไปในแนวร้ายบ้างดีบ้าง ไม่ได้ขาวสะอาดหมดจดแบบที่ใครหลายคนคุ้นชิน
หนึ่งในแง่มุมที่น่าสนใจอย่างยิ่งของ Black Adam คือบทบาทผู้ปกครองอาณาจักรคาห์นดาค (Kahndaq) ประเทศสมมติในจักรวาล DC ที่ไม่ได้ศิวิไลซ์แบบนครเมโทรโปลิส เพราะผู้นำของดินแดนแห่งนี้ส่วนใหญ่เป็นเผด็จการ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือ Black Adam
แต่ถึงจะเป็นเผด็จการ Black Adam กลับได้รับความรักจากผู้คนส่วนมากในคาห์นดาค รวมถึงผู้อ่านคอมมิคเองก็ชื่นชอบตัวละครนี้ไม่น้อยเหมือนกัน ส่งผลให้บริบทของ Black Adam ในฐานะผู้นำที่กุมอำนาจเบ็ดเสร็จในคาห์นดาคเป็นแง่มุมที่น่าสนใจอย่างมาก
The E World พาคุณย้อนดูประวัติและเรื่องราวของ Black Adam ตั้งแต่วันที่เขายังคงเป็นทาสในยุคโปราณ ก่อนก้าวมาปลดปล่อยชาวคาห์นดาคจากอำนาจเผด็จการถึงสองครั้ง รวมถึงแนวคิดทางการเมืองที่ถูกสอดไส้ ส่งผลให้ Black Adam ยังคงเป็นผู้นำเบ็ดเสร็จมาจนถึงทุกวันนี้
* ประวัติของ Black Adam ในบทความนี้ อ้างอิงจากประวัติของ Black Adam ในจักรวาลหลักหรือ Prime Earth เป็นหลัก *
กำเนิด Black Adam
ย้อนกลับไปราว 1,200 ปีก่อนคริสตกาลในจักรวาล DC มีอาณาจักรอันรุ่งเรืองแห่งหนึ่งตั้งอยู่ในแถบตะวันออกกลาง
มันคือ “คาห์นดาค” ดินแดนเปี่ยมศิลปวัฒนธรรมเนื่องจากได้รับอิทธิพลจากจักรวรรดิอียิปต์ แต่บารมีจากอาณาจักรโบราณแห่งแอฟริกาไม่ได้ส่งผลดีต่อคาห์นดาคเพียงอย่างเดียว เพราะเศรษฐกิจในระบบทาสของอิยิปต์ได้กลายเป็นรากฐานสำคัญของดินแดนแห่งนี้
หนึ่งในทาสผู้ทุกข์ยากแห่งคาห์นดาคคือ Teth-Adam หลังครอบครัวของเขาถูกสังหารเกือบหมดสิ้น หลังเจ้าตัวลุกขึ้นต่อต้านอำนาจของผู้ปกครองเผด็จการ เขาผ่านช่วงเวลาที่ถูกคุมขัง, แหกคุก และถูกทำร้ายจนปางตาย แต่ในวินาทีที่ Teth-Adam กำลังจะกลับบ้านเก่า เขาได้รับความช่วยเหลือจากหลานชาย Aman ที่เข้ามาพาเขาออกจากคุกใต้ดิน
ในวินาทีแห่งความเป็นความตาย ทั้งสองถูกย้ายร่างสู่ Rock of Eternity รังซ่อนตัวของ The Wizard พ่อมดเฒ่าผู้ถือครองพลังแห่ง Shazam ที่กำลังตามหาแชมเปี้ยนคนต่อไปซึ่งจะเข้ามารับพลังอันล้ำค่านี้ และในวันนั้น พ่อมดเฒ่าได้เจอคนที่มีคุณสมบัติเหมาะสมกับพลังแห่ง Shazam นั่นคือ Aman บุคคลที่ควรเข้ามาปลดปล่อยคาห์นดาคให้เป็นอิสระจากผู้นำเผด็จการ
Aman ตัดสินใจรับข้อเสนอของพ่อมดเฒ่า ภายใต้ข้อแม้ว่าเขาต้องช่วยรักษาและเพิ่มพลังให้ Teth-Adam ด้วยเช่นกัน
เมื่อ The Wizard ตอบตกลง ทั้งสองจึงเดินทางกลับสู่คาห์นดาคเพื่อปลดปล่อยผู้คนจากความเป็นทาส แต่เส้นทางที่ทั้งคู่กำลังเดินไปค่อยแตกต่างกันอย่างช้า ๆ เพราะขณะที่ Aman มุ่งไปกับการปลดปล่อยทาส เพื่อสร้างความสงบสุขแก่สังคม Teth-Adam กลับหมกหมุ่นไปยังการล้างแค้นให้กับครอบครัว และบดขยี้ผู้ปกครองเผด็จการให้สิ้นซาก
เมื่อความบ้าคลั่งของ Teth-Adam พุ่งถึงขีดสุด เขาจึงตัดสินใจลงมือสังหารหลานชายผู้เคยช่วยชีวิตตนในอดีต เนื่องจากมองว่าแนวทางสันติวิธีของ Aman อาจเป็นปัญหา แถมยังขโมยพลังวิเศษของ Aman สู่ตัวเองอีก นับแต่นั้น Teth-Adam จึงตั้งตนเป็นผู้กอบกู้แห่งคาห์นดาคในนาม The Mighty Adam
เส้นทางสายฮีโร่ของ The Mighty Adam ถือว่าประสบความสำเร็จจนเป็นตำนานเหล่าขานในคาห์นดาค เพราะเขาไม่เพียงแต่เอาชนะผู้นำเผด็จการและวายร้ายตัวฉกาจอย่าง The Seven Sins (บาปเจ็ดประการ) แต่เขายังเอาชนะเหล่าเอเลี่ยนที่บุกมารุกรานโลก
อย่างไรก็ตาม The Mighty Adam กลับลุ่มหลงในอำนาจที่เขาถือครอง นำมาสู่การสังหารสมาชิกสภาแห่งนิรันดร (Council of Eternity) ทุกคน ยกเว้นเพียง The Wizard ที่สามารถเอาชนะเขาได้ ก่อนขับไล่ The Mighty Adam ไปยังห้วงลึกของอวกาศ และเปลี่ยนชื่อเขาเป็น Black Adam วายร้ายที่โลกหวาดกลัวนับแต่นั้น
ผู้กอบกู้และเผด็จการแห่งคาห์นดาค
หลายปีผ่านไป Black Adam สามารถเดินทางกลับมาสู่โลกได้สำเร็จ ก่อนตั้งตนเป็นศัตรูหมายเลขหนึ่งของ Billy Batson หรือ Shazam คนปัจจุบัน แต่ไม่ว่า Black Adam จะเลวร้ายมากแค่ไหน สิ่งหนึ่งที่ยังคงอยู่ในหัวใจของเขาเสมอ คือการโค่นอำนาจผู้นำเผด็จการแห่งคาห์นดาค เหมือนกับที่เคยทำได้ในอดีต
ความหลังฝังใจของ Black Adam ช่างเหมาะเจาะกับสถานการณ์ในยุคปัจจุบันของคาห์นดาคที่อยู่ภายใต้การปกครองของ Asim Muhunnad ผู้นำเผด็จการทหารที่ขึ้นชื่อในเรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชน จนถูกสหประชาชาติคว่ำบาตรอย่างยาวนาน
ด้วยเหตุนี้ Black Adam พร้อมด้วยเพื่อนซี้อย่าง Atom Smasher จึงตัดสินใจเข้าโจมตีคาห์นดาคเพื่อโค่นล้มผู้นำเผด็จการ โดยไม่ฟังเสียงคัดค้านของ Justice Society of America (JSA) กลุ่มซูเปอร์ฮีโร่ที่เขาเคยสังกัด
การโจมตีคาห์นดาคในครั้งนี้นำมาสู่เหตุการณ์ที่เรียกว่า "Black Reign" หรือการขึ้นครองอำนาจเหนือคาห์นดาคของ Black Adam หลังตัวเขาที่ได้รับการสนับสนุนจากประชาชนชาวคาห์นดาค สามารถเอาชนะและปลิดชีพผู้นำเผด็จการทหารได้สำเร็จ (ด้วยฝีมือของ Atom Smasher)
หลังจากนั้น Black Adam จึงตั้งตนเป็นผู้ปกครองแห่งคาห์นดาค ก่อนเปิดศึกกับ JSA ที่เดินทางมาปราบ Black Adam ในข้อหาสังหารผู้นำที่ได้การรับรองโดยนานาชาติ แต่เนื่องจากประชาชนชาวคาห์นดาคสนับสนุน Black Adam ในฐานะผู้กอบกู้ JSA จึงยอมถอยหนึ่งก้าว และรับรอง Black Adam เป็นผู้นำอย่างเป็นทางการของคาห์นดาคในที่สุด
ก่อนจากไป JSA ได้ทำข้อตกลงสำคัญแก่ Black Adam โดยกำชับให้เขากักตัวอยู่แต่ภายในประเทศ และต้องไม่เข้าแทรกแซงการเมืองของแผ่นดินอื่นเหมือนที่เคยทำกับคาห์นดาคอีก นอกจากนี้ JSA ยังกำชับ Black Adam ว่า หากเขาไม่สามารถปฏิบัติตามข้อตกลงนี้ได้ เขาจะไม่ต่างอะไรกับผู้นำเผด็จการที่เขาเคยโค่นล้ม
ถึงตรงนี้ Black Adam กลายเป็นผู้นำสูงสุดของคาห์นดาคโดยปราศจากระบอบประชาธิปไตยหรือรัฐสภาเข้ามาตรวจสอบ (คาห์นดาคยังคงเป็นประเทศในรูปแบบราชอาณาจักร) เมื่อบวกกับแนวทางปราบปรามผู้ร้ายแบบ “ตาต่อตา ฟันต่อฟัน”
นั่นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกเลยที่ใครหลายคนจะมองว่า Black Adam เป็นเผด็จการ เพราะถึงแม้เขาจะรักและตั้งใจจะปกป้องประชาชนชาวคาห์นดาคจากวายร้ายทั้งปวง แต่ความขี้โมโหซึ่งนำมาสู่การกระทำร้าย ๆ ของเขา ก็ยังพบเห็นได้อย่างต่อเนื่อง
ตัวอย่างชัดเจนที่สุดคือการปะทะกันของ Black Adam กับ Batman เนื่องจากฝ่ายหลังไม่ไว้ใจ Black Adam และต้องการปลดเขาออกจากตำแหน่งผู้นำแห่งคาห์นดาค ทั้งสองฝ่ายจึงลงมือปะทะกัน แต่เนื่องจากฝีมือของ Batman สูสีกับ Black Adam ในร่างมนุษย์มาก เขาจึงประทับใจในตัวอัศวินรัตติกาล และเลือกเสนอมอบพลังส่วนหนึ่งเพื่อให้ Batman ได้กลายเป็นผู้ปกครองเผด็จการแห่งก็อตแธมเสียเอง
แน่นอนว่า Batman ย่อมเลือกจะปฏิเสธแนวทางนั้น ก่อนเดินหน้าซัดกับ Black Adam อีกรอบ โชคดีที่กบฎทางตอนเหนือซึ่งตั้งใจจะล้มอำนาจของ Black Adam ด้วยเหมือนกัน ตัดสินใจโจมตีพระราชวังในเวลานั้นพอดี ภาพสะท้อนที่แสดงเห็นความแตกต่างระหว่าง Batman กับ Black Adam จึงแสดงให้เห็นชัด
เพราะขณะที่ Batman เอาแต่วุ่นอยู่กับการช่วยเหลือผู้บริสุทธิ์ในพระราชวังให้หลบไปอยู่ในที่ปลอดภัย Black Adam เลือกที่จะโจมตีใส่เหล่ากบฎแบบจัดเต็มโดยที่ไม่สนว่าใครจะเป็นตายร้ายดีอย่างไร ซึ่งแน่นอนว่า การปราบปรามผู้ร้ายอย่างโหดเหี้ยมทารุณย่อมไม่ตรงกับหลักสิทธิมนุษยชนแน่
แนวคิดที่แอบซ่อนหลังตัวละคร Black Adam
เมื่อมองย้อนกลับไปยังเหตุการณ์ในช่วง Black Reign ที่เขียนขึ้นตั้งแต่ปี 2003 ภาพที่แสดงออกมาบนหน้าหนังสือการ์ตูนค่อนข้างชัดเจนว่า DC Comics กำลังนำเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงในตะวันออกกลางขณะนั้น ที่เหล่าผู้นำเผด็จการทหารกำลังครองอำนาจ ก่อนสหรัฐอเมริกาและผองเพื่อนชาติตะวันตกจะยกทัพไปโจมตีในสงครามต่อต้านการก่อการร้าย (War on terror) มาดัดแปลง
เพื่อยั่วล้อไปกับอิทธิพลของแนวคิดอนุรักษ์นิยมใหม่ที่กำลังแพร่หลายในอเมริกาเนื่องจากประธานาธิบดี จอร์จ ดับเบิลยู. บุช ซึ่งเชื่อว่าชาติตะวันตกควรทำหน้าที่เป็นผู้ปลดปล่อยชาติต่าง ๆ จากอำนาจเผด็จการ แทนจะปล่อยให้ผู้คนภายในชาติดังกล่าวปลดแอกตัวเองตามที่ควรจะเป็น
Black Adam กลายเป็นตัวละครที่เข้ามาแสดงภาพในจินตนาการของการโค่นล้มอำนาจเผด็จการผ่านฝีมือผู้นำและประชาชนในชาติ โดยไม่จำเป็นว่าสหรัฐอเมริกา (ในที่นี้คือ JSA) จะต้องเห็นด้วยหรือเข้ามามีส่วนร่วมหรือไม่
แต่ถึงอย่างนั้น มายาคติที่เชื่อว่าผู้นำในชาติตะวันออกกลางจะต้องมีความเผด็จการยังคงมีอยู่ Black Adam จึงยังคงถูกนำเสนอในแง่มุมที่ปราศจากความเป็นประชาธิปไตย และยังคงมีแนวทางจัดการปัญหาต่าง ๆ ที่ชาติตะวันตกอาจมองว่า “ล้าหลัง”
ยิ่งพิจารณาจากเนื้อเรื่องที่เกิดขึ้นใน Batman: Urban Legends เล่ม 17 ที่เพิ่งตีพิมพ์ในเดือนกรกฎาคม ปี 2022 ที่ Black Adam ต้องเผชิญหน้ากับกบฎในชาติ ก่อนลงมือปราบปรามด้วยการใช้กำลังรุนแรง แถมยังต้องถูก Batman เข้ามาตรวจสอบทั้งที่เขาไม่ได้ยื่นจมูกเข้าไปยุ่งกับเมืองก็อตแธมสักนิด
นั่นยิ่งแสดงให้เห็นชัดถึงความไม่ไว้ใจที่สหรัฐอเมริกามีต่อการปกครองตนเองชาติอาหรับในปัจจุบัน ซึ่งสอดคล้องกับการสั่งถอนทหารจากตะวันออกกลางของประธานาธิบดีโจ ไบเดน เมื่อปี 2021 ที่ผ่านมา
Black Adam จึงเหมือนเป็นตัวละครที่ถูกสร้างโดยผสมภาพสองด้านระหว่างฮีโร่ผู้ปลดแอกกับเผด็จการผู้บ้าอำนาจ อันเป็นมุมมองที่ชาวอเมริกันอ่านแล้วจะรู้สึกสบายใจ เพราะท้ายที่สุดแล้ว ไม่ว่า Black Adam จะสร้างความดีให้แก่ชาวคาห์นดาคสักเท่าไร
เขาจะยังคงเป็นวายร้ายในบางแง่มุมของจักรวาล DC เสมอ เช่นเดียวกับที่ชาติตะวันออกกลางจะถูกมองด้วยสายตาที่ไม่น่าไว้ใจจากสหรัฐอเมริกาไปตราบนานเท่านาน แต่โชคยังดีที่มนุษย์ทุกคนบนโลกไม่ได้อินกับตัวละครขาวสะอาดอย่าง Superman ไปเสียหมด
Black Adam จึงได้รับความรักและถูกโอบอุ้มเป็นอย่างดีจากผู้อ่านคอมมิคมากมาย เนื่องจากเขาถือเป็นฮีโร่คนหนึ่งที่มีแนวทางเป็นของตัวเอง และการกระทำส่วนใหญ่ต่างเป็นไปเพื่อความสุขของประชาชนในประเทศทั้งสิ้น
เพียงเท่านี้ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้ Black Adam กลายเป็นเผด็จการที่ผู้คนมากมายหลงรัก ไม่ว่าจะเป็นชาวคาห์นดาคหรือแฟนคอมมิคก็ตาม
อ้างอิง
ประวัติ Teth-Adam (Prime Earth)
ประวัติ Kahndaq
หนังสือ Batman: Urban Legends เล่ม 17